มีคนถามว่า “ผมควรพาลูกไปเข้าชั้นเรียนรวีฯ และไปโบสถ์หรือไม่?” ผมตอบว่า แน่นอน! และไม่ต้องมาต่อรองเหตุผลกันนะ แล้วคนย้อนถามผมว่า
อะไรน่ะ? ทำไมล่ะ? ผมก็จะตอบเขาว่า
“ท่านจะพูดกับลูกตอนที่เขายังเด็กอยู่อย่างไร เมื่อลูกมากินอาหารเช้า วันจันทร์ และบอกท่านว่า
‘ คุณพ่อ ลูกไม่ขอไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนอีกต่อไปแล้ว’
ท่านคงสวนกลับไปว่า
“เฮ้ย แกต้องไปโรงเรียน”
และท่านจะพูดกับแกอย่างไร หากลูกมาบอกท่านว่า
“พ่อครับ ต่อไปนี้ ผมจะไม่อาบน้ำอีกแล้ว”
ท่านคงจะซัดกลับไปว่า
“ไป แกไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้” ใช่ไหม?
แต่พอมาถึงเรื่องฝ่ายวิญญาณ
ทำไมเรากลัว,ในเรื่องการทรงนำ และการเติบโตขึ้น?
ทำไมเราจึงพูดว่า รอให้แกเป็นผู้ใหญ่เสียก่อน แล้วแกจะเลือกเองว่าแกจะไปโบสถ์ไหน
อย่าล้อเล่นนาท่านไม่ได้รอจนกระทั่งลูกโตพอ ที่เขาจะตัดสินใจไปโรงเรียนใช่หรือไม่ ท่านไม่ได้รอจนกระทั่งเขาจะเลือกว่า เขาอยากอาบน้ำหรือไม่ ใช่ไหม? ท่านเคยรอให้เขาเติบโตพอ ที่จะตัดสินใจเองว่า เขาอยากจะกินยาหรือไม่เวลาเขาป่วยหรืเวลาลูกมาบอกเราว่า “ผมไม่อยากไปเรียนรวีฯ และไม่ชอบไปโบสถ์” เราตอบเขาง่ายมาก ท่านต้องมั่นคง และบอกเขาว่า “นี่ลูก ในบ้านของเราทุกคนไปโบสถ์ และไปเรียนรวีฯ รวมทั้งตัวแกด้วย” ความมั่นคง และการใช้ชีวิตเป็นแบบอย่างของเรา จะช่วยแก้ปัญหาเวลาเขาโตเป็นหนุ่ม,ดื้อด้าน,หรือก้าวสู่อนาคตที่สุขสบาย เขาจะได้มีประสบการณ์กับพระเจ้าในตัวเขา
พ่อแม่ในอเมริกาทั้งหลาย จะสามารถเอาชนะคลื่นแห่งการขบถของหนุ่มสาวที่กำลังเข้ามาสู่ประเทศของเรา หากคุณพ่อและคุณแม่ทั้งหลาย จะพาลูกไปเรียนรวีฯ และไปโบสถ์อย่างสม่ำเสมอ
คัดมาจาก Knight’s Treaswry of Illastvation
J. Edgar Hoover 1895-1972
ผู้อำนวยการ F B I ในปี 1924 ฮูเวอร์ นั่งอยู่บนตำแหน่งนี้ ในสมัยของประธานาธิบดี ถึง 8 คน ท่านพัฒนา F B I ให้เป็นสำนักงานสนับสนุนกฎหมายที่มีประสิทธิภาพที่สุดในโลก หลังจากเขาจบชั้นเตรียมอุดมเขาก็เข้าทำงานเป็นนักการของห้องสมุดของสภาคองเกรส ท่านเป็นสมาชิกของฝ่ายยุติธรรม ในปี 1917 ท่านจัดรายการใหญ่ หลายรายการต่อต้านศัตรูของสัมคม ท่านเขียนบทความและหนังสือ หลายเล่ม ต่อต้านลัทธิคอมมูนิสต์ และวิธีการต่อสู้กับลัทธินี้
