กล้วยหวีนั้น



สวัสดีค่ะพี่น้องทุก ๆ ท่าน

เมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกหงุดหงิด บิดกล้วยหอมสุกส่งกลิ่นหอมหวนเตะจมูกกินสักใบ อารมณ์แจ่มใสจะหวนคืนกลับมาหาคุณเอง ที่พูดนี่ฉันไม่ได้จินตนาการไปเองนะคะ นักโภชนาการเขาว่าอย่างนั้น ในกล้วยหอมสุกมีสารบางอย่างที่กินเข้าไปแล้ว จะไปทำปฏิกิริยากับต่อมอะไรต่อมิอะไรในร่างกาย ทำให้เกิดการหลั่งสารสร้างความสุขออกมา คนกินเลยอารมณ์ดี จะเชื่อหรือไม่เชื่อลองกินกล้วยหอมสักลูกก็ไม่เสียหายอะไร อร่อยดี ราคาถูกดีกว่ากินยาคลายเครียดเป็นไหน ๆ

แต่สำหรับพี่น้องที่เป็นภูมิแพ้มีอาการหอบหืด ต้องระวังอย่ากินกล้วยหอมมากนักนะคะ (รวมถึงช็อกโกแลตด้วย) นักโภชนาการบอกอีกเหมือนกันว่า กล้วยหอม (ช็อกโกแลต) มีสารบางอย่างไปกระตุ้นอาการภูมิแพ้ให้เพิ่มขึ้น ฉันเลยขยาดไม่ค่อยกล้าซื้อกินสักเท่าไร เพราะฉันเป็นภูมิแพ้ค่ะ ต้องระมัดระวังเรื่องอาหารกินมากพอควร
กล้วยทุกชนิดจัดเป็นผลไม้ที่มีคุณค่ามาก ราคาไม่แพง มีหลายพันธุ์ เช่น กล้วยหอมที่แลดูโอ่อ่าหรูหรา ด้วยผลอวบยาวสีเหลืองอร่ามสวยงาม (โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้วยหอมทอง) กลิ่นหอมหวีใหญ่โต หรือ กล้วยน้ำว้า แลดูบึกบึนสมเป็นอาหารเสริมเพิ่มพลังให้ทารกเติบใหญ่แข็งแรง ผู้ใหญ่กินดีใครนอนไม่ค่อยหลับลองกินกล้วยน้ำว้าสุกงอมจิ้มน้ำผึ้งสักลูกจะหลับสบาย (แพทย์แผนไทยว่าอย่างนั้นนะคะ) กล้วยหักมุกสีอึมครึมน่าฉงน แต่เผาสุกเนื้อเหลืองปานทองน่ากินจริง ๆ แลดูเป็นสาวน้อย วัยสะพรั่งต้องกล้วยไข่จะกินสุกสด ๆ หรือนำมาเชื่อมจนเนื้อกล้วยแตกลายงาชวนน้ำลายสออร่อยทั้ง 2 แบบ และอีกกล้วยที่ฉันหยิบมาเปิดประเด็นคุยกันวันนี้คือ

กล้วยเล็บมือนาง
ลูกเรียวยาวเล็ก ๆ ประมาณนิ้วก้อยของคนร่างใหญ่ แต่กับคนตัวเล็ก ๆ อย่างฉันคงประมาณนิ้วชี้ ขนาดที่ว่านี้เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นได้รู้จักกล้วยเล็บมือนาง เมื่อหลายปีก่อนโน้น ปัจจุบันกล้วยใบเล็ก ๆ น่ารักอย่างนั้นดไม่มีให้เห็นอีกแล้ว แม้ใจฉันจะถวิลหาก็ดูเหมือนจะเปล่าประโยชน์

กล้วยเล็บมือนางวันนี้ใหญ่ขนาดกล้วยไข่หวีย่อม ๆ ทีเดียว จึงไม่ใช่กล้วยเล็บมือนาง ของนวลนางร่างน้อยสะโอดสะองอย่างเก่าก่อน กลายเป็นเล็บมือของนางยักษ์ไปเสียแล้ว สงสัยเทคโนโลยีทางการเกษตรจะเจริญมาก ๆ จนพืชผักหลายอย่าง จากที่เคยเห็นใบเล็ก ๆ ย่อม ๆ เช่น มะระ หัวผักกาด (ใช่เท้า ) กลายเป็นใบเบ้อเริ่มเทิ่ม ไม่รู้เหมือนกันว่ากินเข้าไปแล้วจะมีผลต่อร่างกายในอนาคตอย่างไร เพราะยังไม่มีการค้นคว้าวิจัยออกมา ขอพระเจ้าโปรดเมตตาช่วยดูแลด้วย อย่าให้เกิดเหตุการณ์เหมือนที่ญี่ปุ่นสมัยฉันยังเด็ก ๆ ได้อ่าน เรื่องการปลูกมะเขือเทศ และอย่างอื่นอีกได้ผลใหญ่มาก ต่อมาปรากฎว่าเด็กที่เกิดมาในตำบลที่ใช้เทคโนโลยีพิเศษนี้ ตาบอดสีกันมาก จนต้องมีการทำวิจัยว่าเกิดจากสาเหตุอะไร และผลมาจากพืชผักเหล่านี้ จึงมีการค้นคว้าทำวิจัยต่อมา นั่นเป็นเรื่องเมื่อประมาณเกือบ 50 ปีมาแล้ว วันนี้เมืองไทย พืชผักปลูกโดยไม่ใช้ดินก็มี มีเทคโนโลยีทันสมัย จนอะไร ๆ ก็ใหญ่โตมโหฬาร ฉันเลยอดคิดถึงเรื่องที่รู้มาสมัยเด็ก ๆ ไม่ได้ จึงเล่าให้ฟัง เพราะเรเป็นคนบ้านเดียวกัน คือ “บ้านดีมีสุข”
หรือใครมีข้อมูลดี ๆ เด็ด ๆ เรื่องเกี่ยวกับการเกษตรแบ่งปันให้พวกเราได้รู้บ้างซิค่ะ รู้แล้วไม่ต้องคิดมากนะคะ แต่ยังไง ๆ ก็เลือกซื้อหาพืชผักที่เขาบอกว่าปลอดสารไว้ก่อนแล้วกัน ส่วนจะปลอดจริงปลอดเก๊ อย่ากังวลไปเลย เดี๋ยวสหายผมขาวจะตามมาขอเป็นเพื่อนก่อนวัยอันควร เอาล่ะค่ะแถออกนอกเรื่องไปซะยาว กลับมาที่กล้วยหวีนั้น กันดีกว่า

ฉันซื้อกล้วยเล็บมือนางมาหวีหนึ่ง ทุกคนในบ้านฉันชอบกินมากกว่ากล้วยชนิดอื่น ๆ เพราะเนื้อกล้วยเมื่อสุกจัดจะเหนียวมีรสหวาน และมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ กล้วยหวีนั้นแต่ละลูกผิวเหลืองแก่-อ่อนคละกันไปซึ่งหมายความว่าจะสุกจัดไม่พร้อมกัน และมีสีเขียวปี๋โดดเด่นออกมาลูกหนึ่ง กล้วยหวีนั้นถูกปลิดออกมากินทีละลูก 2 ลูก จนในที่สุดเมื่อผ่านไป 3 วัน คงเหลือกล้วยดิบเขียวปี๋ลูกนั้นเพียงลูกเดียว เกือบถูกฉันเหวี่ยงทิ้งลงถังขยะไปแล้ว แต่ฉุกคิดขึ้นมาว่าอยากรู้ว่าเจ้ากล้วยเล็ก ๆ โดดเดี่ยวลูกนี้ ยังสามารถทำตัวให้สุกเป็นประโยชน์กับคนอื่นได้หรือไม่ ถ้าได้อีกนานกี่วัน ฉันจึงวางไว้บนโต๊ะให้เห็นเด่นชัด มองดูเหมือนไม่มีใครเหลียวแลไร้คุณค่า กล้วยลูกนั้นสงบนิ่งอยู่บนโต๊ะประมาณ 4 วัน จากผิวเขียวปี๋ค่อย ๆ เหลืองจนสุก ลูกชายคนเล็กของฉันซึ่งชอบกินกล้วยเล็บมือนางมาก เป็นคนหยิบขึ้นมาปอกเปลือกกิน “หวานอร่อยนะหม่าม๊า” ฉันปลื้มใจมากที่สุดกล้วยเล็ก ๆ ลูกนั้นก็เกิดผลจนได้ ถ้าฉันใจร้อนไม่อดทนรอคอย โยนลงถังขยะไป ลูกฉันจะไม่มีโอกาสได้กินเลย และกล้วยลูกนี้ก็ไม่มีโอกาสเกิดผลเป็นอาหารของมนุษย์ได้เช่นกัน
กล้วยเล็บมือนางหวีนั้น สอนฉันหลายอย่าง

ให้ความคิดฉันหลายเรื่อง ถ้าเปรียบกล้วยหวีนั้นเป็นครอบครัว ฉันได้ความคิดอย่างนี้ค่ะ

กล้วยแต่ละลูกในหวีนั้น เสมือนบุคคลต่างวัยในครอบครัวหนึ่ง ๆ
แต่ละลูกสุกจัดกินได้ต่างเวลากัน คือการเจริญเติบโตจนประสบผลสำเร็จของบุคคลในครอบครัว ย่อม ช้า-เร็ว ตามวัย ตามวุฒิภาวะ และตามเหตุการณ์บางอย่างที่เหนือการควบคุม เช่น ลูกคนโตบังเอิญมีพยาธิสภาพร่างกายที่มีปัญหา อาจเรียนหนังสือไม่ได้ หรือเรียนจบช้ากว่าน้อง ๆ เป็นต้น

การเกิดผลเพื่อยังประโยชน์ให้ผู้อื่นมากน้อยช้าเร็วต่างกัน กล้วยทุกลูกอยู่รวมกันได้ด้วยขั้วที่ใหญ่แข็งแรงพอพยุงกล้วยทุกลูกให้อยู่รวมกันเป็นหวีใหญ่บ้างเล็กบ้าง คือครอบครัวมีใหญ่เล็กต่างกันไป แต่คนในแต่ละครอบครัวอยู่รวมกัน ยึดกันไว้อย่างเหนียวแน่น โดยมีผู้ใหญ่ที่เข้มแข็งเป็นแกนนำ ยึดแต่ละคนให้อยู่ร่วมกันได้ และแต่ละคนต่างมีหน้าที่เอื้อประโยชน์ดูแลซึ่งกันและกันตามความเหมาะสมของแต่ละคน นอกจากจะยังประโยชน์ให้เกิดกับคนในบ้าน ต่างก็เอื้อประโยชน์ให้กับบุคคลอื่น ๆ นอกบ้านด้วยเช่นกัน

สิ่งสำคัญที่กล้วยเล็บมือนางหวีนี้สอนฉัน คือ

ความอดทนและความรัก ฉันเฝ้ารอดูว่ากล้วยเขียวปี๋ลูกนั้นจะสุกหรือไม่ด้วยความอดทนจริง ๆ และต้องระมัดระวังไม่ให้มีแมลงมากัดเจาะจนเสียไป ทั้ง ๆ ที่เป็นกล้วยใบเล็กนิดเดียว และเป็นการเฝ้ารอด้วยความหวังจริง ๆ ว่ามันจะต้องสุกกินได้แน่นอน และมันก็สุกจริง ๆ ฉันจึงคิดขึ้นมาได้ว่า คนในครอบครัวย่อมเกิดผลช้าเร็วต่างกัน ความรัก ความอดทนและความหวัง เท่านั้นที่จะประคับประคองให้ทุกคนสามารถเดินร่วมทางกันไปอย่างมั่งคง ต่างช่วยเหลือดูแลให้กำลังใจกัน ที่สุดทุกคนจะเกิดผลสวยงามตามสภาพของตน อยู่บ้านเดียวกัน ต้องยอมรับรู้ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นร่วมกัน ร่วมมือกันขจัดปัญหาอุปสรรค ที่สุดชัยชนะจะเป็นของพวกเราทุกคนในครอบครัว พ่อแม่ต้องไม่ลำเอียง ถ้าลูกคนไหนไปได้ช้า หรือมีปัญหามาก พี่น้องต้องไม่รังเกียจดูหมิ่นถิ่นแคลน เมื่อคนใดคนหนึ่งอ่อนแอหรือด้อยกว่า เราต่างต้องดูแลกันด้วยความเข้าใจ ด้วยความอดทน และด้วยความรักจริง ๆ ที่สุดองค์ประกอบต่าง ๆนี้จะก่อให้ทุกคนเกิดผลงดงามแน่นอน
การไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค

ทำไมกล้วยลูกนั้นจึงสุกได้ ทั้ง ๆ ที่ฉันปาดขั้วออกจนเหลือติดลูกอยู่นิดเดียว ฉันมองเห็นความพยายามของกล้วยลูกนั้น ถ้ามันยอมแพ้มันคงจะฝ่อไปก่อนสุกแน่ ๆ แม้จะเหลือมันเพียงลูกเดียววางอยู่บนโต๊ะอย่างเดียวดาย แต่มันไม่ยอมแพ้มันเห็นความเอาใจใส่ดูแลของฉันที่อยากเห็นมันสุกเกิดประโยชน์เป็นอาหารได้ เหมือนอย่างกล้วยลูก ๆ อื่น ๆ ในหวีเดียวกัน มันจึงพยายามคงความสดจนสุกเหลืองกินได้อร่อยในที่สุด ฉันคิดว่าชีวิตคนก็เช่นกัน ไม่ว่าจะตกอยู่ในสภาพใด ทุกข์ยากแค่ไหน กำลังใจของตัวเองสำคัญที่สุด ถ้าเราไม่ยอมแพ้ซะอย่าง ชัยชนะอยู่ในกำมือแน่นอน

ฉันได้บทเรียนมากมาย จากกล้วยเล็บมือนางหวีนั้น เป็นทั้งอาหารทางร่างกาย และเป็นอาหารทางสมองอีกด้วย ขอบคุณพระเยซูคริสต์พระเจ้า ที่ทรงประทานสติปัญญาให้ฉันได้คิดว่า สรรพสิ่งทั้งหลายที่อุบัติขึ้นจากการทรงสร้างของพระเจ้า ล้วนยังประโยชน์แก่ตน และแก่ผู้อื่นทั้งสิ้นไม่เว้นแม้แต่สิ่งเดียว

คุยเสียยืดยาว อย่าเพิ่งเบื่อนะคะ เรามาทำอะไรอร่อย ๆ จากกล้วยกินกันสักอย่างดีไหมคะสูตรของฉันเองค่ะ
 

กล้วยทอด
กล้วยสุกงอม (ชนิดใดก็ได้) งาขาวคั่ว ลูกเกด (หรือแอปเปิ้ลหั่นชิ้นเล็ก ๆ ) เม็ดฟักทองอบนมสดหรือกะทิ เกลือ นมข้น แป้งโกกิ เนยสด

วิธีทำ
ขูดกล้วยจนเละใส่นมสด เกลือ นมข้น คนผสมจนเข้ากัน เติมแป้งโกกินิดหน่อย คนจนเนียน พักในตู้เย็น ½ ชม. เอาออกมาเติมงาคั่ว ลูกเกด เม็ดฟักทอง คนผสมพอเข้ากัน จากนั้นยกกระทะตั้งไฟอ่อน พอกระทะร้อนทาเนยให้ชุ่ม ๆ ตักกล้วยหยอดเป็นแผ่นใหญ่เล็กตามต้องการ พอเหลืองแซะกลับข้าง ให้สุกเหลืองทั้ง 2 ด้าน แซะขึ้นใส่จาน

วิธีเสริฟ จัดใส่จานโรยหมูหยองโรยครีมสลัด แนมด้วยผักสลัด เสริฟพร้อมไอศครีม ราดแยมหรือช็อกโกแลตโรยข้าวโอ๊ตอบหรือมูสลี่ หรือไม่มากเรื่อง ทอดเสร็จกินได้เลย

วันนี้เสนอให้ 3 อย่าง แต่พี่น้องจะจัดเสริฟอย่างไรตามแต่จินตนาการค่ะ ที่ไม่บอกอัตราส่วนให้เพราะนี่เป็นการทำกินกันเองในบ้าน ใครชอบรสชาติอย่างใดตามชอบค่ะ

เคล็ดลับ ทำกล้วยบวชชีให้อร่อย

1.ต้มกล้วยจนสุกก่อนจึงปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้นใส่ลงในกะทิน้ำตาลเกลือที่ต้มเดือดแล้ว ควรใช้กล้วยที่ไม่สุกจัด เนื้อกล้วยจะแข็งอร่อย

2.หั่นกล้วยใส่หม้อเติมกะทิ น้ำตาล เกลือลงไปพร้อมกันแล้วต้มจนกล้วยสุก น้ำตาลจะรัดเนื้อกล้วย ทำให้เนื้อเหนียวเข็งอร่อยค่ะ

ในภาวะต้องประหยัด กินกล้วยกันนะคะอร่อยถูกมากคุณค่าค่ะ

ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรค่ะ

ข้อคิดจากพระคริสตธรรมคัมภีร์
พระเจ้าทอดพระเนตรสิ่งทั้งปวงที่พระองค์ทรงสร้างไว้ ทรงเห็นว่าดีนัก มีเวลาเย็นและเวลาเช้าเป็นวันที่หก (ปฐก 1:31)

ความยำเกรงพระเจ้าเป็นบ่อเกิดของความรู้ คนโง่ย่อมดูหมิ่นปัญญา และคำสั่งสอน (สภษ.1:7)


Visitor 609

 อ่านบทความย้อนหลัง