|
อ่านพระคัมภีร์แล้วได้อะไร
ม.ธ. 4: 4 พระเยซูคริสตรัสว่า อาหารฝ่ายเนื้อหนังจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตอย่างไร พระคัมภีร์ก็จำเป็นแก่ชีวิตของเราเช่นเดียวกับอาหาร
1 ทิโมธี 4 :7 เปาโลเปรียบกับการฝึกฝนร่างกายว่าเกิดประโยชน์แก่เราแค่ไหน การฝึกทางธรรมก็มีประโยชน์ยิ่งกว่าพระคัมภีร์ช่วยให้เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญณ
1 ปต.2: 2 พระคัมภีร์ถูกเปรียบเทียบกับ “น้ำนม” ที่ทารกแรกเกิดต้องการ
ช่วยป้องกันเราจากความผิดบาป สดุดี 119: 11 ” ข้าพระองค์ได้สะสมพระดำรัสของพระองค์ไว้ในใจของข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะไม่ทำบาปต่อพระองค์ ” การที่เรารู้พระคำ ทำให้เรารู้ วินิจฉัยว่าอะไรถูก อะไรไม่ถูกอย่างแม่นยำ เป็นการป้องกันให้ปลอดภัยจากการเดินทางผิด
ช่วยนำทางเรา สดุดี 119 :105 ” พระองค์เป็นโคมสำหรับเท้าของข้าพระองค์ เป็นความสว่างแกมรรคาจองข้าพะรองค์ ” การใช้ชีวิตของเรา บ่อยครั้งที่เราเลือกไม่ถูก เราต้องการสติปัญญา พระคัมภีร์เป็นปัญญาของเราอย่างมาก เมื่อเราทำผิดพระคัมภีร์
ช่วยชี้ให้เรากลับใจใหม่ ฮีบบรู 4 :12 -13 ปกติเมื่อคนเราทำผิด พระบัญญัติมักมีผลกับจิตใจเรา เพราะกฎหรือข้อห้ามยิ่งทำให้เราแข็งกระด้างยิ่งขึ้น แต่พระคัมภีร์ที่เราอ่านสามารถตรัสกับมโนธรรม หรือจิตสำนึกของเราด้วยความสุภาพ พระคัมภีร์สอนให้เรามองเห็นท่าทีที่ไม่ถูกต้องของเราเอง ทำให้เราถ่อมใจลงต่อพระเจ้า
ช่วยหนุนใจเราเมื่อเราท้อถอย หรือมีอุปสรรค สดุดี 119 :103 “พระดำรัสของพระองค์นั้น ข้าพระองค์ชิมแล้วหวานจริง ๆ พระคำของพระเจ้าเต็มไปด้วย พระสัญญาและคำหนุนใจ
ช่วยให้เรามีความเชื่อมากขึ้น โรม :10 17 ปกติสายตาของเราแลเห็นเพียงเฉพาะที่เป็นความจริงตามสายตามนุษย์เท่านั้น เรมองไม่เห็นสิ่งที่เป็นเรื่องฝ่ายวิญญาร แต่พระคำของพระเจ้าเปิดตาฝ่ายวิญญาณของเรา เป็นต้นว่าเราจะเห็นพระพรของการถวายทรัพย์ ,เห็นชัยชนะในความพ่ายแพ้ ,เห็นความรุ่งโรจน์ของการถ่อมใจ ,เห็นความสินดีขณะถูกข่มเหง ,เห็นความสุขของการให้มากกว่าการรับ ,เห็นชีวิตหลังความตาย ,เห็นความอิ่มใจในความขัดสน ,เห็นสวรรค์แม้อยู่ในกายนี้
รักพระเยซู ต้องอ่านพระคัมภีร์ ยอห์น 14 :21 พระเยซูตรัสว่า “ผู้ใดที่มีบัญญัติของเรา และประพฤติตามพระบัญญัตินั้น ผู้นั้นแหละเป็นผู้ที่รักเรา และผู้ที่รักเรานั้น พระบิดาทรงรักเขา และเรารักเขา และจำสำแดงตัวให้ปรากฎแก่เขา
พระคัมภีร์เป็นสื่อให้เราสนิทสนมกับพระเยซู มีผู้กล่าวว่า ถ้าเราอยากรู้จักน้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับตัวเรา 90 % ของน้ำพระทัยพระเจ้าปรากฎอยู่ในพระคัมภีร์ อีก 10 % เป็นสิ่งเฉพาะที่พระเจ้าจะระบุลงไปว่า จะให้เราทำที่ไหน เมื่อใดในเมื่อพระคัมภีร์ คือหนังสือที่พระเจ้าเขียนถึงเรา ถ้าเรารักพระองค์ เราก็ต้องอ่านพระคัมภีร์
อยากรู้จักพระเยซูต้องอ่านพระคัมภีร์ การอ่านพระคัมภีร์ทำให้เราเข้าใจพระเจ้า มากกว่ารู้เนื้อหา เพราะ”ถ้อยคำที่เราได้กล่าวกับท่านทั้งหลายนั้น เป็นจิตวิญญาณจิตและเป็นชีวิต (ยน.6 :63 )
ทุกครังที่เปิดพระคัมภีร์อ่าน ขอให้เปิดหูออกฟัง พระเยซูตรัสกับท่านเองโดยตรง ผ่านพระคัมภีร์ม.ธ. 4: 4 พระเยซูคริสตรัสว่า อาหารฝ่ายเนื้อหนังจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตอย่างไร พระคัมภีร์ก็จำเป็นแก่ชีวิตของเราเช่นเดียวกับอาหาร 1 ทิโมธี 4 :7 เปาโลเปรียบกับการฝึกฝนร่างกายว่าเกิดประโยชน์แก่เราแค่ไหน การฝึกทางธรรมก็มีประโยชน์ยิ่งกว่า
บทความโดย ศจ. สมเกียรติ กิตติพงษ์
|
|
|