|
แผ่นดินสวรรค์ ต้องแย่งชิงเอา
ศ บ. พระเยซูตรัสว่า “แผ่นดินสวรรค์เป็นสิ่งที่คนได้แสวงหาด้วยใจร้อนรน และผู้ที่มีใจร้อนรน ก็เป็นผู้ที่ชิงเอาได้” (มัทธิว 11:12) อีกครั้งหนึ่ง พระเยซูจึงตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “ถ้าผู้ใดใคร่ตามเรามา ให้ผู้นั้นเอาชนะตนเอง และรับกางเขนของตน แบกและ ตามเรามา” (มัทธิว 16:24)
ก่อนที่มาเป็นคริสเตียน ตัวเราเองเป็นใหญ่ที่สุดในชีวิตของเรา แต่เดี๋ยวนี้ ไม่ใช่ พระเยซูต่างหากเป็นเจ้านายของเรา แต่ก่อนเราเคยปล่อยชีวิตตามอำเภอใจ ตามอารมณ์ เรายอมให้มันครอบงำชีวิตของเรา เด๋ยวนี้เราต้องชนะตนเอง โดยมีพระเยซูเป็นแบบอย่าง เดินตามพระองค์ทุกวัน ( ฮีบรู 12:1-3)
สาวกของพระเยซู ต้องพร้อมเผชิญความทุกข์ยาก เอาชนะความสุขสบายของตนเอง รับภาระกิจที่พระเจ้ามอบให้ ก้าวไปสู่ความสำเร็จ 1. เอาชนะคลื่นการต่อต้านของสังคม ในขณะที่พระเยซูเป็นที่นิยมชมชอบ ใครๆ ก็อยากติดตามพระองค์ ทุกคนอยากเป็นสาวก เมื่อพระองค์เลี้ยงพวกเขาด้วยขนมปังและปลา ครั้นพระองค์ถูกต่อต้าน พวกเขายังติดตามต่อไปหรือ เมื่อหลายคนกำลังหันหลังให้พระเยซู “สาวกหลายคนถอยหลัง ไม่ติดตามพระเยซู” รวมทั้งพวกน้องๆ ของพระองค์ พระองค์จึงตรัสถามเหล่าสาวกว่า พวกเขาจะจากเราไปด้วยหรือ (ยอห์น 6:60,66-71; 7:5 )
2. เอาชนะการขู่เข็ญให้กลัว พวกยิวหาโอกาสฆ่าพระองค์ พระเยซูทรงเสด็จไปเยรูซาเล็มเงียบๆ ไม่เปิดเผย (ยอห์น 7:1,10 ) ในสมัยคริสตจักรเริ่ม แรก ที่เยรูซาเล็ม พวกยิวขู่สำทับสาวก ห้ามประกาศ (กจ 4:21,23) มารชอบขู่เราให้กลัว มารวนเวียนรอบๆ ดุจสิงห์คำราม ขู่ให้กลัว (1ปต. 5:8) ในภาวะอย่างนั้น เรายังจะติดตามพระองค์หรือ นี่คือบททดสอบ วันนี้ อาจมีคนเยาะเย้ย ถากถาง ข่มขู่ท่าน แต่คนที่จะเป็นสาวกพระเยซูไม่กลัว
3. เอาชนะความยากลำบากนานา เปาโลต้องเผชิญกับความทุกข์ยาก และการถูกโจมตีนานา ( 2 คร. 11:23-29 ) แต่มันคือหนทางที่เปาโลเดินไปสู่ความสำเร็จ แต่ท่านก็แย่งชิงเอาชนะความยากลำบาก เมื่อตอนที่โมเสสส่งคนไปสอดแนมคานาอัน ดินแดนที่มีน้ำผึ้งน้ำนมไหล พวกเขาเห็นกำแพงสูง เห็นคนร่างยักษ์ นี่คือดินแดนที่พวกเขาจะเข้าไปยึดครอง พวกเขากลัว ขยาด แต่คาเลบได้ให้คนทั้งปวงเงียบลง กล่าวว่า “ให้เราขึ้นไปทันที และยึดเมืองนั้น เพราะพวกเรามีกำลัง สามารถที่จะเอาชนะได้” (กดว 13:30) โยชูวา กล่าวว่า “เพียงแต่จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด ระวังที่จะทำตามบัญญัติทั้งหมด” (ยชว 1:7-8) แผ่นดินสวรรค์ เหมือนคานาอัน อุดมสมบูรณ์ เป็นพระพร แต่มียักษ์และกำแพงสูง เราต้องมีความเชื่ออย่าง คาเล็บ และโยชูวา พร้อมต่อสู้ เข้าไปยึดครอง โดยพึ่งพระเจ้า
4. เอาชนะความรู้สึก ที่ไม่ได้ผลเร็วทันใจ การปั้นคน สร้างสาวก ไม่อาจเกิดได้ทันใจ อย่างกับชงกาแฟ แต่เกิดโดยผู้สร้างสาวก ต้องอดทน ขยันขันแข็งต่อเนื่อง การปลูกพืช ชาวนาต้องอดทน พรวนดิน ใส่ปุ๋ย รดน้ำ รอคอยไม่ย่อท้อ พระเยซูตรัสว่า แผ่นดินสวรรค์เปรียบเหมือนเมล็ดพืช ที่มีคนหว่านลงในดินและค่อยๆ งอกขึ้น จนโตใหญ่ ( มก 4:26-29) เหมือนชาวนารอคอยผล (ยากอบ 5:7-8)
5. ครูก็ต้องอดทน “จงมอบคำสอนเหล่านั้น ซึ่งท่านได้ยินจากข้าพเจ้า ต่อหน้าพยานหลายคน ไว้กับคนที่สัตย์ซื่อ ที่สามารถสอนคนอื่นได้ด้วย” ( 2 ทิโมธี 2:2) การเป็นครูสอนต้องอดทน “ฝ่ายผู้รับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้า ต้องไม่เป็นคนที่ชอบทะเลาะวิวาท แต่ต้องมีใจเมตตาแก่ทุกคน เป็นครูที่เหมาะสม มีความอดทน ชี้แจงให้ฝ่ายตรงกันข้าม เข้าใจด้วยความสุภาพ ว่าพระเจ้าจะทรงโปรดให้เขากลับใจมาถึงซึ่งความจริง และหลุดพ้นบ่วงของมาร” (2 ทธ 2:24-26)
6. นิมิตรอเวลา
ตัวอย่าง ดาวิด จากวันที่ซามูเอล มาเจิมตั้งเขาเป็นกษัตริย์ จนถึง วันที่ดาวิดเป็นกษัตริย์ ยาวนานถึง 16 ปี ดาวิดต้องทุกข์ยากมากมาย ตอนดาวิดอายุ 16 ปี “ซามูเอลนำขวดน้ำมันมาเจิมดาวิด เป็นกษัตริย์ท่ามกลางพี่ชาย” (1 ซมอ. 16:13) 14 ปีผ่านไป วันหนึ่ง “คนยูดาห์ก็พากันมาเจิมตั้งดาวิด ไว้เป็นพระราชาเหนือพงศ์พันธ์ยูดาห์ ( 2 ซมอ 2:4 )
ตัวอย่าง ยาโคบ เมื่อจะออกเดินทางจากบ้านไป ปัดดัมอารัม มาถึงเบธเอล ยาโคบฝันเห็นบันไดอันหนึ่งตั้งขึ้น บนแผ่นดินโลก ยอดถึงฟ้าสวรรค์..เราอยู่กับเจ้า จะพิทักษ์รักษาเจ้าทุกแห่งหนที่เจ้าไป และจะนำเจ้ากลับมายังแผ่นดินนี้” (ปฐก 28:12,15) ประมาณ 20 ปีผ่านไป เมื่อยาโคบ ออกจากปัดดัมอารัม กลับมาปาเลสไตน์ พระเจ้าก็ทรงสำแดงแก่ยาโคบ และทรงอวยพรเขา ..พระเจ้าตรัสกับยาโคบว่า พระองค์ตั้งชื่อใหม่ให้เขาว่า “อิสราเอล” และสัญญาว่า ดินแดนนี้ที่เราให้แก่ อับราฮาม และอิสอัค เราจะให้แก่เจ้า..ยาโคบเรียกตำบลที่พระเจ้าตรัสว่า เบธเอล” (ปฐก 35:9-15)“
ตัวอย่าง โยเซฟ คราวหนึ่งโยเซฟฝัน ...ฟ่อนข้าวของพี่ๆ มาแวดล้อมกราบไหว้ฟ่อนข้าวของฉัน” ( ปฐก 37:5-10) โยเซฟอดกลั้นน้ำตา ต่อหน้าบรรดาผู้ที่ยืนอยู่ต่อไปอีกไม่ได้ เมื่อเจ้าหน้าที่ออกไปแล้ว โยเซฟบอกพวกพี่ๆ ว่า “เราคือโยเซฟ..พระเจ้าทรงใช้ให้เรามาก่อนพี่ เพื่อจะได้ช่วยชีวิต เพราะมีการกันดารอาหาร” ( ปฐก 45:1-15)
7. ทุกข์วันหว่าน ชื่นบานวันเกี่ยว “ขอให้บรรดาผู้ที่หว่านด้วยน้ำตา ได้เกี่ยวด้วยเสียงโห่ร้องอย่างชื่นบาน ผู้ที่ร้องไห้ออกไป หอบหิ้วเมล็ดพืช เพื่อจะหว่าน จะกลับบ้าน ด้วยเสียงโห่ร้องอย่างชื่นบาน นำฟ่อนข้าวของตนมาด้วย” (สดุดี 126:5-6) การนำคนมาเป็นสาวก ก็เช่นเดียวกัน ทุกข์ยากลำบาก น้ำตาไหล แต่ทรงสัญญาว่า เราได้หัวเราะหากเราอดทน ไม่ย่อท้อ เราจะได้เก็บเกี่ยวด้วยความยินดี
|
|
|