คริสตจักรแฝด

ศบ.

วันนี้เราอยู่ใน “เดือนกันยายน ปี 2019” อีกปีเดียว เราก็ถึงปี 2020 แล้ว สี่ปีมาแล้ว เราตั้งเป้ากันว่า “สู่ปี 2020 มุ่งเพิ่มพูนทั่วไทย” ไม่ใช่แต่สามัคคีธรรมเท่านั้น ที่ตั้งเป้าอย่างนี้ องค์กรคริสตจักรโดยรวมในประเทศไทยก็ตั้งเป้าหมายทำนองนี้ ในหนังสือ “เพิ่มพูนคริสตจักรโดยการกลับใจ ของคริสตจักรโปรแตสแตนท์ในประเทศไทย” 2008 ของ อาจารย์ มาร์เตน วิสเซอร์ (Marten Visser) หน้า 77 อาจารย์ให้ข้อมูลนี้

นั่นแปลว่า ไม่นับชาวเขา คนไทย เป็นคริสเตียน 0.31 % เท่านั้น เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ทุก 1,000 คนของคนไทย มี คริสเตียน แค่ 3 คน หลังจากโปรแตสแตนท์ เข้ามาสู่เมืองไทยตั้งแต่ ปี 1828 คือ 191 ปีมาแล้ว ต้องขอบคุณพระเจ้าสำหรับมิชชั่นนารีรุ่นแรก ๆ ที่ทรหดอดทน ปล้ำสู้ความยากลำบาก กว่าจะมีคนไทยมาเชื่อพระเจ้า

ปี 1992 สามัคคีธรรมกรุงเทพ ยกทีมประกาศในกรุงเทพฯ มีทีมแม่ ๆ ด้วย ไปประกาศที่กบินทร์บุรี ปี 1993 เรามีกลุ่มเซลล์ 4-5 กลุ่ม จึงก่อรูปขึ้นเป็นคริสตจักร ที่โคก ขี้เหล็กอันเป็นคริสตจักรลูกแห่งแรกของเรา จากนั้น พระเจ้าก็ทรงโปรดให้เราได้เปิดคริสตจักรลูกอีกหลายแห่ง มีทั้งเกิดจากการประกาศ การแยกเรือน การก่อรูป และ ลูกบุญธรรม ส่วนมากเกิดจากการประกาศ

ปี 2008 เรามีพันธกิจ 25 แห่ง ก็ต้องขอบคุณพระเจ้า
ปี 2013 แต่ผ่านมา 5 ปี สามัคคีธรรมกรุงเทพมีพันธกิจ 26 แห่ง (บันทึก ใน หนังสือวิทยานิพนธ์ ของ มน.วันทนีย์ เอ็นโด ปี 2013 หน้า 62) พูดง่ายๆ ในช่วง 5 ปี นับแต่ปี 2008 ถึงปี 2013 องค์กร สามัคคีธรรมกรุงเทพ ไม่มีการปลูกคริสตจักรใหม่เพิ่มขึ้นเลย ในขณะที่คริสตจักรลูก 25 คริสตจักรในตอนนั้น มีอายุมากน้อย ลัดหลั่นกัน ตั้งแต่ 2-3 ปี จนถึง 20 ปี

ในประชุมองค์กรแต่ละปี เราพูดเรื่อง การสร้างสาวก กลุ่มเซลล์ คริสตจักรเลี้ยงตัวเอง คุณภาพคริสตจักร ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีทั้งสิ้น แล้วพี่น้องก็ไปพัฒนาคริสตจักรของตน เราคาดหวังว่า ทุกคริสตจักรจะเพิ่มพูนขึ้น แปลว่า (1) สมาชิกจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้น (2) จำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้น และ(3) เขาสามารถเปิดคริสตจักรลูกได้เองมากขึ้น แถมอีกสักข้อ (4) เขาจะสามารถเลี้ยงตัวเองด้านการเงินได้มากขึ้น 

มาวิเคราะห์ทีละข้อ

1. สมาชิกเติบโตฝ่ายวิญญาณ เป็นผู้ใหญ่ขึ้น เรื่องนี้คงวัดยากหน่อย ผมไม่ได้ใกล้ชิดพี่น้องในโบสถ์ลูกแต่ละโบสถ์ แต่การเลี้ยงตัวเอง ได้มากขึ้น ออกไปประกาศ ย่อมบ่งบอกการโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เพราะแสดงให้เห็นความรับผิดชอบ และใจเมตตาคนที่ยังไม่รู้จัก พระเจ้า

2.จำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้น เรื่องนี้ วัดไม่ยาก แต่ละคริสตจักรมีการนับ จำนวนผู้เชื่อทุกอาทิตย์ กร้าฟ ของผู้มาร่วมประชุมควรเพิ่มทวีขึ้น จาก 20 คน เป็น 40-50 คน หรือให้ทะลุเพดาน 100 คน แต่ ปรากฏว่า จำนวนสมาชิกในคริสตจักรส่วนมาก ก็ไม่เพิ่มขึ้น ลดลงก็มี บางทีเพิ่มแล้วกลับลดลงมาอีก ผมเข้าใจเรื่องนี้ดี ศบ. ทุกคนรู้ดีว่า เราต้องพึ่งสมาชิกประกาศเป็นพยาน เราจึงหนุนใจ ให้ เพื่อนนำเพื่อน ญาตินำญาติ อบรมเรื่องการเป็นพยาน ส่วนตัว ประชุมฟื้นฟู รับพระวิญญาณด้วย แต่เวลาผ่านไป ก็ พบว่า จำนวนสมาชิกเท่าเดิม ไม่เพิ่มขึ้น

ทำไมล่ะ?
ก็เพราะ สมาชิกมิได้ประกาศจริงจัง อาจเพราะห่างญาติ หรือห่างเพื่อนหมดแล้ว หรือ เพราะกำลังง่วนยุ่งกับการทำมาหากิน การแก้ปัญหาชีวิตตนเอง จนหมดเวลาเป็นสัปดาห์ เป็นเดือน เป็นปี เป็นปีปี นานเข้า ศบ. ก็ตีความว่า เพราะมันยังไม่ถึงเวลาของพระเจ้า เหมือนฝนยังไม่ตกจากฟ้า ฉะนั้น ให้เรารอ ครับ รอคอย รอจนปีนี้ 191 ปี โปรแตสแต็นท์ในประเทศไทยเข้าไปแล้ว
ผมจึงแนะนำว่า ให้พากันออกไปประกาศ พระเยซูตรัสว่า “ท่านทั้งหลายจะได้รับพระราชทานฤทธิ์เดช เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นพยานฝ่ายเรา...” รับฤทธิ์แล้ว ไม่ใช่อยู่เฉยๆ แต่ออกไปเป็นพยาน มิฉะนั้นคริสตจักรจะไม่เพิ่มพูน

3. เปิดคริสตจักรลูก หรือ คริสตจักรแฝด
ผมเข้าใจดี ว่าถ้าเราเป็นคริสตจักรเปิดใหม่ ก็ต้องเลี้ยงดูคริสตสมาชิกให้เติบโตแข็งแรง การสร้างกลุ่มเซลล์ เป็นวิธีที่ดีแล้ว แต่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าให้คริสตจักร ขยายออกไปเปิดงานพันธกิจด้วย ตัวอย่าง เช่น คริสตจักรเยรูซาเล็ม มีสมาชิกมากขึ้นๆ ทำท่าจะกระจุกอยู่ในกรุง (กิจการบทที่ 8 ) พระเจ้ายอมให้การข่มเหงหนักเกิดขึ้น สมาชิกจึงแตกกระจาย ไปอยู่ในที่ต่าง ๆ การปลูกคริสตจักรลูก จึงทวีขึ้นทั่วไป
คริสตจักรอันทิโอก ก่อคริสตจักรขึ้นในปี คศ 42 (กิจการ 11) ไม่เกินสองปี (กิจการ 13) อันทิโอกก็ส่ง เปาโล และบาระนาบัส ออกไปเปิดคริสตจักรลูก การปลูกคริสตจักรใหม่ จึงเป็นวิธีขยายงานของพระเจ้า ซี ปีเตอร์ แวคเนอร์ กล่าวว่า “วิธีประกาศ วิธีเดียวที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ใต้ฟ้าสวรรค์ คือ การปลูกคริสตจักร” ( แวคเนอร์, 1990)
การปลูกคริสตจักรใหม่ นอกจากเป็นหลักของพระคัมภีร์ เป็นการช่วยคนใหม่อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังสร้างพลังให้สมาชิกอีกด้วย

ผมอ่านรายงาน เรื่องเพิ่มพูนคริสตจักรในอเมริกา แล้วอดสะท้อนดูบ้านเราวันนี้ไม่ได้ ยอร์จ บาร์มา รายงานว่า คริสตจักรในอเมริกาวันนี้ มีจำนวนลดลงกว่า 10 ที่แล้ว วิน อาร์น บอกว่า คริสตจักรในอเมริกา 80-85 % กำลังอยู่ในสภาพ คงที่ หรือ ลดลง ซึ่งกำลังเกิดขึ้นหลายคณะ ฟิล โจนส์ ชี้ให้เห็นว่า “ถ้าเปรียบเทียบ ระหว่างคริสตจักรเก่า กับคริสตจักรใหม่ คริสตจักรเปิดใหม่ จะให้บัพติสมาจำนวนสูงกว่า คริสตจักรเก่า” (Jones, 1979)
ผมจึงหนุนให้ คริสตจักรลูกทั้งหลาย เริ่มปลูกคริสตจักรแฝด

ห้องประกาศสระแก้ว
การปลูกคริสตจักรแฝด ของ คริสตจักรสามัคคีธรรมกบินทร์
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ภรรยา ผม น้องกิตติ มีโอกาสไปเยี่ยมเยียน คริสตจักรสามัคคีธรรมโคกอุดม จากนั้นเราก็ไปเยี่ยมคริสตจักร สามัคคีธรรมกบินทร์บุรี เนื่องจากไม่ได้นัดแนะอะไรกันมาก่อน เราพบ แต่อาจารย์จันที คนเดียว ผมขอเรียก น้องจันที เป็นครั้งแรกที่เราเข้าไปชม สถานประชุมใหม่ ที่กบินทร์บุรี ค่าเช่าเดือนละ 10,000 บาท กรรมการตั้งเงินเดือนและค่ารถให้ ศบ.อีกประมาณ 8,000 บาท ด้วย ทั้งหมดนี้ คริสตจักรกบินทร์เลี้ยงตนเอง ทราบว่า สมาชิกมาร่วมประชุมประมาณ 40 - 50 คน มีห้องรวีฯ เด็กอยู่ชั้นสอง ผมขึ้นไปดู วันนี้ ยังขาดครูสอน เราก็หนุนใจว่า ให้พี่ที่เป็นอนุชน สอนน้อง เราจะส่งทีม ยูท ทัวร์ จากค่าย Change มาช่วยเริ่มให้

จากนั้น น้องจันที ก็เล่าว่า ตั้งแต่ทราบว่าผมอยากให้ทำคริสตจักรแฝด เขาก็อธิษฐานและเริ่มทำเลย เอารูปถ่ายในมือถือมาให้ดู เพิ่งเริ่มมาได้ประมาณ 1 เดือนเศษ อยู่ที่ตัวเมืองจังหวัดสระแก้ว เราจึงบอกว่า ขอเราไปเยี่ยมเลยได้ไหม น้องเขาโทรติดต่อเจ้าของบ้าน ตอนนั้นบ่าย 4 โมงครึ่งแล้ว โบสถ์กบินทร์อยู่ห่างจาก สระแก้ว 40 กิโลเมตร น้องโยขับรถใช้เวลาเดินทางประมาณ ครึ่งชั่วโมง เราถึงที่นั่นประมาณ 5 โมงเย็น ผมถามน้องจันทีว่า มันเกิดมาได้อย่างไร น้องเขาเล่าว่า มีคุณชัยณรงค์ และภรรยา ทั้งคุณแม่เป็นสมาชิกที่คริสตจักร เมื่อประชุมองค์กร พี่น้องทั้งหมดนี้ ก็ไปประชุมด้วย เขาเข้าใจการเปิดคริสตจักรแฝดที่ผมสอน
เขาเริ่มงานมาตั้งแต่กลับจากประชุมองค์กร เมื่อต้นเดือนสิงหาคมนี้เอง ภรรยาของคุณชัยณรงค์ เพิ่งมาเช่าห้องที่นี่เพื่อเปิดร้านเสริมสวย ขอบคุณพระเจ้า เราได้พบกับ คุณชัยณรงค์ และครอบครัว ทั้งผู้เชื่อใหม่บางคนด้วย ในห้องร้านเสริมสวย น้องเขาติดข้อพระคัมภีร์เต็มไปหมด คนมาร้านคงได้นั่งอ่านไปด้วย นับเป็นวิธีประกาศง่ายๆ น่าชื่นชม หน้าร้าน น้องจันทีไปทำแผ่นไวนีล เขียนว่า สถานประกาศสามัคคีธรรมสระแก้ว ติดไว้ เรียกว่า “จองพื้นทีให้พระเจ้า โดยความเชื่อ ล่วงหน้าเลย” เขามีประชุม บ่ายวันอาทิตย์ น้องจันที มาที่นี่ อาทิตย์ละ 2 วัน (1) วันอาทิตย์ หลังจากประชุมที่กบินทร์บุรีตอนเช้าแล้ว ก็ฝากให้น้อง ๆ ที่โบสถ์ช่วยนำกลุ่มสามัคคีธรรมภาคบ่ายแทน ส่วนตัวน้องจันทีเอง พร้อมกับสมาชิกบางคน พากันมาจัดประชุมที่นี่ คุณชัยณรงค์ ชอบแต่งเพลง ที่ประชุมจึงร้องเพลงที่แต่ง นมัสการ น่าตื่นเต้น (2) อีกวันหนึ่ง คือวันพุธ น้องจันทีจะพาสมาชิกบางคนมาประกาศ ในสระแก้ว เขาชี้ให้เราดูศาลา ที่เขาเคยไปตั้งวงดนตรีเล่น และประกาศ พาเราไปเยี่ยมผู้เชื่อใหม่ 2 บ้าน ในหมู่บ้านเอื้ออาทร อยู่ห่างจากที่ประชุมประมาณ เกือบ 3 กิโลเมตร ผมถามว่า ทำไมคิดมาประกาศที่หมู่บ้านนี้ น้องเขาเล่าว่า มีคนใหม่ที่เข้ามาประชุมจึงตามมาประกาศที่นี่ จากนั้นก็เดินแจกใบปลิว ทีละบ้าน ๆ ในบ้านเอื้ออาทร แบบกำปั้นทุบดิน อย่างที่ผมเคยแนะนำ ผมดูกับตา น่าจะมีบ้านประมาณ 200 หลังคาเรือน เราได้อธิษฐานหนุนใจคนใหม่ พบคนไม่สบายก็วางมือ อธิษฐานรักษาโรค ยายคนหนึ่งที่เราไปเยี่ยม ยังเคี้ยวหมากปากแดงเชียว เขาชี้ไปที่น้องจันที บอกเราว่า “คนนี้ไล่ผีได้” น้องจันทีหันไปบอกเขาว่า ไม่ใช่ผม”พระเยซู ครับ”
เราไม่ได้ไปวันอาทิตย์ที่เขามีประชุม จึงไม่ได้พบพี่น้องทั้งหมด ผมบอกเขาว่า อีกไม่นานที่นี่จะเป็นคริสตจักร ไม่ช้ามี 40-50 คนไม่ยากอะไร นี่คือการทำโบสถ์แฝด อย่างที่ผมเสนอผู้นำพันธกิจทั้งหลาย ซึ่งศ บ. ต้องเหนื่อยขึ้นแน่ ๆ
ช่วยคิดกับผมนิด ก่อนจบ ถ้ากบินทร์วันนี้ มีสมาชิก 40-50 คน และนั่งเฝ้า ลุ้น สมาชิกให้ประกาศ รอบ ๆ โบสถ์ เพื่อมีสมาชิกเพิ่มขึ้น อีกนานแค่ไหนจะมี 80-100 คน คงยากหืดขึ้นคอทีเดียว แต่ถ้าตอบผมว่าไม่ยาก ผมถามว่าที่ผ่านมา 5 ปี ทำไมมันถึงปีนขึ้นมาเป็น 80-100 ไม่ได้ แต่ถ้าทำโบสถ์แฝด ที่กบินทร์มี 50 คน + สระแก้ว อีก 50 คน ก็เป็น ร้อย มันง่ายกว่ามิใช่หรือ มิน่า ซี ปีเตอร์ แวคเนอร์จึงว่า “เลี้ยงเด็กอ่อน ง่ายกว่า เรียกคนให้ฟื้นขึ้นจากตาย” (Wagner,1990) เชื่อผมเถอะ ยิ่งช้ายิ่งพลาดโอกาส เผลอ ๆ เจอปัญหาสมาชิกลดลง แล้วคริสตจักรจะตายลงอย่างสถิติของอเมริกาด้วย
ขอพระเจ้าอวยพรครับ