โมทนาพระคุณ


ศบ.

เดือนนี้เป็นเดือนแห่ง “การขอบพระคุณ” ผมจำได้ว่า เราพยายามเลือกตั้งชื่อเดือน ให้มีวัน หรือเหตุการณ์อะไรที่มีความหมาย สอดคล้องกับ เดือนนั้น ๆ เช่น มกราคม เราตั้งชื่อว่า เดือนแห่งความเชื่อ เพราะเป็นเดือนขึ้นปีใหม่ เราคิดไปถึงอะไร ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งปี ตั้งชื่อเดือน กุมภาพันธ์ ว่าเดือนแห่งความรัก เพราะวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักที่ใคร ๆ รู้จัก ส่วน สิงหาคมเดือนนี้ เรามีวันแม่ ที่เราจัดไปแล้ว สัปดาห์ที่ผ่านมา เราคุยกันถึงพระคุณของแม่มาก ๆ แล้วเราก็เลือกเดือนนี้เป็นเดือนขอบคุณพระเจ้าด้วย
ผมยก สดุดี 9:1-2 มาพูดเรื่องการขอบพระคุณพระเจ้า
ดาวิดผ่านความทุกข์ยากมากมาย แต่ดาวิดพึ่งพระเจ้า และพระองค์ทรงโปรดช่วยให้ดาวิดผ่านพ้น อันตรายมาตลอด สดุดีบทนี้ ดาวิด โมทนาพระคุณพระเจ้า ดาวิดโมทนาคุณพระองค์อย่างไร

1. เริ่มที่ใจ “ข้าพระองค์จะขอบพระคุณพระเจ้า ด้วยสิ้นสุดใจของข้าพระองค์” (1) โลกนี้ คนไม่ได้ขอบคุณพระเจ้า เพราะเขา “เอาความชั่วร้ายมาบีบคั้นความจริง” (โรม 1:18) จึงหาได้ถวายพระเกียรติ หรือขอบพระคุณไม่ (โรม 1:21) แค่ยอมรับ “ความจริง” ง่าย ๆ ล้อมรอบตัวเรา ทั้งในตัวเราเอง เราก็ตระหนักว่า พระเจ้าเป็นพระผู้สร้างเรา สร้างเราขึ้นอย่างอัศจรรย์ เราเป็นหนี้คุณพระองค์ทุกอย่าง

 


เราเรียนชีววิทยา เราแต่ละคนเกิดมาแต่การปฏิสนธิในครรภ์มารดา อสุจิของชาย (1 เซลล์) มาผสมกับ ไข่ ( 1 เซลล์ ) ของหญิง เซลล์มันเล็กมากจนมองกันด้วยตาเปล่าไม่เห็นทั้งคู่ เล็กกว่าผงชอร์ค เสียอีก ผสมกันแล้วฝังตัวที่มดลูกของผู้หญิง ผู้เป็นมารดาเรา จากนั้นก็ค่อย ๆ แบ่งตัว เป็นหลายเซลล์อย่างอัศจรรย์ ในระยะเวลา 9 เดือน เราคลอดออกมา อย่างที่เราเป็น มีรูปร่างหน้าตา เหมือนพ่อบ้าง แม่บ้าง วิทยาศาสตร์บอกเราว่า เพราะ ดี เอน เอ มีรหัส ที่แน่นอน ผสมกัน ลักษณะของทั้งสองจึงปรากฎ อย่างนี้ เอ้า ! ที่เก่งกว่านั้นอีก คือ ในร่างกายเรามีระบบเก่งกาจ ที่นักวิทยาศาสตร์ เลียนแบบได้ยากยิ่ง เรามีระบบเส้นเลือด ลำเลียงอาหาร และออกซีเยน ไปเลี้ยงเซลล์ทั่วร่างกาย เก่งยิ่งกว่า ระบบขนส่งของ กทม. เรามีระบบทางเดินอาหาร ที่มีทั้ง เคี้ยว ย่อย ดูดซึม เอาอาหารไปสู่ระบบเลือด ขับถ่ายกากออกมา เก่งว่าระบบขนขยะไปทิ้งแค่ไหน เรามีระบบเส้นประสาท ที่ส่งสัญญาณความรู้สึกปลายนิ้วไปยังสมอง จากสมองมายังปลายนิ้ว เก่งกว่าองค์การโทรศัพท์ เป็นพันเท่า ไม่พูดต่อแล้ว กระดาษมีไม่พอเขียน แค่นี้ นักวิทยาศาสตร์ ก็บอกว่าเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ (ซึ่งแปลกันตรง ๆ ก็คือ อุบัติขึ้นมาเองๆ ของมัน ) เราจึงไม่ได้ขอบคุณใครสำหรับตัวเรา


กษัตริย์ดาวิด จึง ว่า เพียงแค่คิดนิดเดียว เราเห็นเก้าอี้ตัวหนึ่ง เรายังไม่เคยเห็นช่างไม้ เรายังสรุปได้ทันทีว่าต้องมีผู้ออกแบบ และสร้างมันขึ้น เพราะสิ่งที่มีรูปแบบ ส่อปัญญาย่อมเกิดเองไม่ได้ ต้องเกิดจากผู้มีปัญญา แค่นี้ เราก็ต้องก้มลงกราบพระเจ้าแล้ว เพราะเราเป็นหนี้พระผู้ทรงมีพระปัญญามากล้นพ้นตัว ผู้สร้างตัวเราขึ้นมา ใจเราจึงตระหนักถึงพระคุณสุดใจ

2. กล่าวขอบคุณ (1)
คนไทยถูกสอนให้ขอบคุณ คนที่ทำอะไรให้เรา อย่าหัดเป็นคนมือหนัก ปากหนัก นี่เป็นเหตุที่ในวันแม่ เรามีลูก ๆ มาประณมมือ กราบแม่ ขอบคุณแม่ เอาดอกไม้ ร้อยเป็นพวงมาลัย มาให้แม่ ร้องเพลง ค่าน้ำนม เราทำกันทั้งบ้านทั้งเมือง เราบรรยายว่าแม่อุ้มท้องหนักแค่ไหน นาน 9 เดือน คลอดลูกเจ็บปวดแค่ไหน ทั้งเลี้ยงประคบประหม ตั้งแต่เล็กจนโต ตั้งแต่คลาน เดินเตาะแตะ จนวิ่งเล่น ทำอะไร ๆ ได้ พระคัมภีร์สอนให้เราเคารพให้เกียรติบิดามารดา ซึ่งง่ายที่จะแลเห็น ดียิ่งครับ ผมเห็นด้วยว่า เราไม่ควรขอบคุณพ่อแม่เฉพาะวันแม่เท่านั้น ควรขอบคุณท่านเสมอ
แต่เราขอบพระคุณพระเจ้าไม่เป็น พอพูดว่าให้กล่าวขอบคุณพระเจ้า เรางง มึนตึบ คิดไม่ออก ทำไมต้องขอบคุณพระเจ้า พระองค์ทำอะไรให้เราหรือ ขอพูดเรื่องน้ำนมแม่อย่างเดียว จากเพลง แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง …. กลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน” ผมมีคุณแม่ที่รัก ท่านเลี้ยงผมด้วยน้ำนมเสียด้วย ผมรักนับถือท่านมาก เมื่อผมแต่งงานกับภรรยา มีลูก ตอนลูกเป็นทารกน้อย ภรรยาก็มีน้ำนมให้ลูกด้วย อ้อ! บางทีก็ใช้นมผงเลี้ยงทารกด้วยบ้าง แต่ทั้งคุณแม่ และภรรยา ก็มิได้กลั่นน้ำนมเองกันทั้งคู่ ทั้งสองท่านกลั่นน้ำนมเป็นครับ ถ้าอย่างนั้น ถามว่าที่มารดามีน้ำนมมาเลี้ยงลูกนั้นใครเป็นผู้ทำ วิทยาศาสตร์บอกว่า อย่าไปคิดมาก มันเกิดเอง ๆ ตามธรรมชาติ คิดกันได้แต่นี้หรือ ตอนเราเรียนชีววิทยา วิทยาศาสตร์บอกเราว่า น้ำนมมีโปรตีน คาซีน มีน้ำตาลแลคโตส เป็นโปรตีนและน้ำตาลตัวเบาๆ ไม่เหมือนโปรตีนในเนื้อสัตว์ หรือน้ำตาลออ้อย น้ำนมแม่นี้เหมาะกับทารกน้อยมาก แถมยังมีสาร โนโรสตุ้ม ที่เป็นภูมิต้านทาน ให้ทารก ต้านเชื้อโรค ทารกจึงติดเชื้อไม่ได้ง่ายๆ
เอ๋ ! มันเกิดมาได้ยังไง ตอนผู้หญิงเป็นสาว ยังไม่ตั้งครรภ์ เธอไม่มีน้ำนม ถ้ามีก็ประหลาด แต่พอมีเพศสัมพันธ์ คลอดลูก ร่างกายของเธอ เริ่มผลิตน้ำนม เธอกลั่นโดยตัวเธอเองรึ เธอไปทำระบบอะไรให้ร่างกายของเธอ ถ้าเธอทำเองได้ก็เก่งแท้ ครับ ทั้งภรรยา และคุณแม่ของผม ทำไม่เป็นทั้งคู่ คุณแม่ท่านสอนผมว่า พระเจ้าต่างหากเป็นผู้ทำ ไม่มีผู้หญิงคนไหนในโลกขี้ตู่กลางนา แย่งความฉลาดปราดเปรื่องนี้จากพระเจ้า ตอนผมมาเรียหนังสือที่กรุงเทพฯ พี่น้อง 4-5 คนมาเช่าบ้านอยู่แถวสะพานควาย ทุกเดือน คุณพ่อส่งเงินมาให้ใช้คนละ 200 บาท พี่สาวผมเอารับจดหมายที่มีธนาณัติ ไปรับเงินที่ไปรษณีย์ มาแจกให้น้อง ๆ คนละ 200 บาท ทุกเดือน ผมยกมือขอบคุณพี่สาวทุกครั้ง แต่จบแค่นั้นหรือ แล้วพ่อที่ให้เงินมาละ ขอบคุณท่านหรือเปล่า ขอบคุณพี่สาวที่ช่วยพวกเราน่ะดีแล้ว แต่ต้องไม่ลืมขอบคุณคุณพ่อที่บ้านด้วย ครับ ขอบคุณคุณแม่นะดีแล้ว ที่ท่านป้อนนมเรา แต่เราต้องขอบคุณพระเจ้าผู้ผลิตน้ำนมด้วย ครับ! ดาวิดจึงว่า “ให้เราขอบพระคุณพระเจ้าด้วยสุดใจ”

3. ภาคภูมิใจในพระองค์
“ข้าพระองค์จะยินดี และปลาบปลื้มใจในพระองค์” (2)
ตอนเราเป็นเด็ก อยู่บ้านที่นคร คุณแม่ผมทำขนมขาย คุณพ่อท่านเป็นครูใหญ่โรงเรียนราษฎร์ เล็ก ๆ เราโตขึ้นบ้านที่ไม่ได้มีฐานะมั่งมีอะไร แต่สิ่งหนึ่งที่พวกลูก ๆ มีเหมือนกันหมด ก็คือเราไม่เคยอายพ่อ อายแม่ ตรงข้าม
จะไปคุยอะไรกับใครที่ไหน เราก็พูดได้อยากภาคภูมิว่าเราเป็นลูกของท่าน วันนี้ ภรรยาและผมมีลูก 3 คน สิ่งที่ทำให้เราชื่นใจเสมอ ก็คือ ลูกเขาภาคภูมิใจที่เป็นเขา มีเราเป็นพ่อเป็นแม่ คนไทย เกิดในแผ่นดินไทย มีพระเจ้าอยู่หัว เป็นกษัตริย์ ทุกพระองค์ ทรงทำคุณประโยชน์มากมาย ไปต่างประเทศเราก็ภูมิใจที่เราเกิดในแผ่นดินนี้ ครับ เราเป็นลูก ของพระเจ้า พระองค์สร้างเรามา พระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถยิ่งกว่าใคร ทรงยุติธรรม เที่ยงตรง (4) ปกครองอย่างมั่นคง (7) ทำพระราชกิจประเสริฐมากมาย (11) ใส่ใจในความทุกข์ (17) แล้วเราไม่ภาคภูมิในพระองค์ หรือ ดาวิดกล่าวว่า “ข้าพระองค์จะยินดี และปลาบปลื้มในพระองค์”

 

 

4. ร้องเพลงสรรเสริญพระคุณ (2,11)
“ข้าแต่พระองค์ ผู้สูงสุด ข้าพระองค์จะร้องเพลงสรรเสริญพระนาม”
วันแม่ เราร้องเพลงขอบคุณคุณแม่ เดี๋ยวนี้มีผู้แต่งเพลงมาอีกหลายเพลง เขียนบทกลอน ประกวดเรียงความ ทำเป็นวิดีโอคลิป ดีแท้ มีคนโพสท์ข้อความว่า ฟังเพลง ค่าน้ำนม ทีไร น้ำตาไหลทุกที การขอบคุณที่ซาบซึ้ง มาแต่การเห็นคุณที่แท้จริง เรานึกเห็นภาพ แม่เจ็บปวดตอนคลอด แม่ไกวเปล แม่ให้เรานอนในมุ้ง แม่กล่อมจนหลับ พาเราไปหาหมอ เอาเราเข้าโรงเรียน อีกเยอะครับ มันซึ้งน้ำตาไหล ก็เพราะเรามีประสบการณ์ เพลงที่สรรเสริญพระเจ้า ก็เช่นเดียวกัน ถ้าไม่เป็นประสบการณ์ เราก็เข้าไม่ถึง
ดาวิด แต่งเพลงสดุดี พระองค์บรรยายว่า พระองค์หมิ่นเหม่ กับความตายแค่ไหน ศัตรูเล่นงานพระองค์ พระองค์ อายุแค่ 16-17 ปี ถูกกษัตริย์ซาอูล ไล่ล่าเอาชีวิต แต่พระเจ้าช่วยให้รอดตลอดมา ดาวิดไม่รู้จะหาที่ซ่อนที่ไหน ต้องไปอยู่ในเขตฟะลิศเตีย แดนศัตรู หนีไปอยู่ในถ้ำ พระเจ้าเป็นทีกำบังให้ตลอด (9) ไม่เคยพลาดเลย ถ้าพลาดก็ถึงตายครับ เพลงมีชีวิตชีวา ไพเราะ จำง่าย ติดปาก เร้าใจ เตือนใจผู้ร้อง คนไทยเราร้องเพลงชาติ และเพลงสรรเสริญพระบารมี เทิดพระเกียรติ จำได้จนขึ้นใจ กษัตริย์ดาวิด พัฒนาคณะนักร้องสรรเสริญพระเจ้า ด้วยดนตรียิ่งใหญ่ นี่เป็นเหตุผลที่เราโมทนาพระคุณพระเจ้าด้วยการสรรเสริญ

5. ประกาศพระราชกิจอันทรงคุณ
“ข้าพระองค์จะบอกถึงการอัศจรรย์ ทั้งสิ้นของพระองค์” (1) “จะบอกเล่าถึงพระราชกิจของพระองค์ ในท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย” (11)
วันแม่ มีลูกบางคนขึ้นมาเล่าให้ฟังว่า เขาซาบซึ้งคุณแม่ตรงไหน ตอนเขาป่วย แม่เฝ้าไข้ ตอนแม่ยากจนข้นแค้น แม่สู้ทนเลี้ยงเขา แม้แม่บางคนจากไปแล้ว เรายังมีเรื่องเล่ามากมาย เล่าง่าย เพราะเป็นเรื่องจริง การเก็บไว้คนเดียว ปิดปากเงียบ โดยเฉพาะจากคนที่เข้าใจผิด มิได้สำแดงพระคุณแต่อย่างใด พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ พระองค์ปรารถนาให้เขามารู้จักความรักของพระองค์ วันนี้ เรารู้จักพระเจ้าแล้ว เราสมควรประกาศ พระราชกิจของพระเจ้า ให้คนจำนวนมากที่ยังไม่ทราบได้รู้ เพื่อเขาจะเข้ามามีความสัมพันธ์กับพระองค์เองโดยตรง การยกย่องเทอดทูนพระเจ้าอย่างหนึ่ง คือ การประกาศให้คนรู้จักความรักของพระเจ้า วันนี้ เรามีสื่อในมือที่ทันสมัยกว่าในอดีต การประกาศ เป็นการโมทนาพระคุณพระเจ้าอย่างหนึ่งครับ

ถ้าใจเราสำนึกพระคุณ การโมทนา ขอบพระคุณ แซ่ซร้องร้องเพลง และประกาศพระคุณ ก็จะง่ายไปหมด

ขอพระเจ้าอวยพรครับ

 









 





Visitor 265

 อ่านบทความย้อนหลัง