ปลาแฟนซี คร้าฟ 

ศบ.

 

         ที่บ้านเราเลี้ยงสัตว์ชนิดเดียว คือ ปลาแฟนซี คร้าฟ  ผมชอบเพราะมันสวยดี  เขาขายกันตัวละแพง ๆ เป็นพันเป็นหมื่น   แต่ผมซื้อปลามาตัวละ 40-50 บาท เหตุที่เขาขายกันแพง เพราะมันมีสีสัน และลายเข้าตำรา ทั้งมีชื่อเรียกตามลักษณะด้วย     แต่ผมไม่สนใจว่า มันจะมีลายแบบไหน  เพราะผมเห็นว่าลายหรือสีอะไร แบบใด ต่างก็เป็นปลาที่พระเจ้าทรงสร้างมาทั้งสิ้น  ถ้าผมจะว่า ผมชอบปลาที่มีสีมีลายที่ผมซื้อมาราคานี้  มากกว่าที่เขาซื้อกันแพง ๆ ใครจะว่าไง ใครคือผู้กำหนดความงาม   ก็เหมือนกับคนเรา หน้าตา หรือผิวพรรณแบบไหน  ต่างก็เป็นฝีพระหัตถ์ของพระเจ้าด้วยกันทั้งสิ้น คนเราสวย หล่อ ตามแบบฉบับของตัวเรา  

 

           1.  ปลาต้องการออกซิเจน

 

            ปลาแฟนซี คร้าฟ  เป็นปลาที่ต้องการออกซีเจนหายใจ  มากกว่าปลาอื่น ๆ  เราจึงใช้ปั้มน้ำ ตีฟองในบ่อ  ให้น้ำมีออกซีเจนอยู่เสมอ ถ้าปั๊มน้ำหยุดทำงาน เช่น ไฟฟ้าดับ  ปลั๊กไฟหลุด ปั๊มหยุดทำงาน ออกซีเจนในน้ำมีไม่พอ  ปลาหายใจไม่ออก นานเกิน 20-30 นาที  มันจะตาย ครับ!  ตั้งแต่ผมเลี้ยงปลาคร้าฟมา  ปลามันตายหมดบ่อมาหลายครั้งแล้ว  ถ้าผมจะ


                                      

 

เปรียบปลาคร้าฟกับคริสเตียน เปรียบออกซิเจนกับพระวิญญาณ  คริสเตียนที่ไม่มีพระวิญญาณจะรอดอยู่ไม่ได้  เหมือนหญิงพรหมจารีย์ โง่  มีตะเกียงแต่ไม่มีน้ำมันสำรอง  เหมือนคนพกมือถือที่ไม่มี แบตสำรอง (Power Bank)  แบตหมดเมื่อใด  มือถือก็เป็นก้อนวัตถุ ที่ไร้ประโยชน์ทันที วันนี้ คริสเตียนที่มีไฟของพระวิญญาณ จะมีชีวิตชีวา  มีพลัง  เหมือนปลาคร้าฟมีออกซิเจน ว่ายน้ำฉุยฉาย สดชื่นยิ่ง แต่คริสเตียนที่หมดไฟ  แบตหมด  เพราะไม่สนิทสนมกับพระเจ้า ไม่อธิษฐาน ไม่อ่านพระคัมภีร์ ทั้งขาดโบสถ์ด้วย ปล่อยชีวิตมุ่งทำมาหากิน ตามโลกอย่างเดียว  ถ้ามีกล้องพิเศษถ่ายภาพชีวิตภายในให้เห็นได้  ผมก็ว่า เหมือนปลา คร้าฟ นอนลอยคอในน้ำเป็นแถว

 

           2.  ขาดออกซิเจน ปลาตาย   

 

             อย่าทำเป็นเล่น  ผมเคยกลับบ้านมาเจอตอน ไฟฟ้าที่บ้านดับ  ปลาไม่มีออกซิเจน นานแค่ไหนไม่รู้  ปลาคร้าฟในบ่อยังไม่ตายครับ  แต่อยู่ในอาการป้อแป้  เรี่ยวแรงในการว่ายน้ำไม่มี หายท้อง  ทรงตัวเหมือนปลาปกติไม่ได้  หายใจพะงาบ ๆ    นี่ถ้าเป็นคนก็คงต้องเรียกรถพยาบาลมารับ  อารามที่ผมเสียดายปลา  ผมก็รีบแก้ให้ปั้มน้ำทำงาน สร้างออกซีเจนฉุกเฉินให้มัน  เหมือนเอาคนไข้ไปโรงพยาบาล  พาเข้าห้อง ไอ ซี ยู  ผมรีบให้ออกซิเจนปลาป่วยเหล่านี้ทันที   ปล่อยน้ำ ตีฟอง ให้ออกซีเจนมากกว่าปกติสองเท่าเชียว แต่จากประสบการณ์ของผม  มันตายมากกว่ารอดครับ  สิบตัวรอดสักสองตัวยังยากเลย  พระเยซูถึงได้เตือนเรายังไงล่ะ ว่า  เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมเหมือนหญิงพรหมจารีย์ฉลาด ไม่ยอมให้น้ำมันพร่อง  หรือขาดจากตะเกียง  เพราะถ้าไฟดับไปแล้ว จะตกแต่งตะเกียง  เติมน้ำมันตอนเจ้าบ่าวมา  มันสายไปครับ  ชีวิตฝ่ายวิญญาณน่ะ กันดีกว่าแก้   ชีวิตที่สนิทสนมกับพระเจ้า เหมือนกิ่งติดกับต้น  จะสดชื่น  สวยงาม  เปล่งปลั่ง  

 

                                      

 

  3.   ต้องอยู่ในน้ำสะอาด

 

              คนที่มาชมปลาแฟนซี คร้าฟ ที่บ้าน  จะแลเห็นปลาสวยงาม  ว่ายอยู่ในน้ำที่สะอาด  ใสกริบ  ดั่งแก้ว  ไม่เหมือนปลาในคลอง ที่แหวกว่ายในน้ำคลองขุ่น ๆ  เหมือนสีน้ำโคลน น้ำในบ่อปลาคร้าฟ ใสอยู่เช่นนี้ได้อย่างไร  ทั้ง ๆ ที่ปลาเหล่านี้ถ่ายขี้ปลาออกมาทุกวัน  คนเลี้ยงปลาคร้าฟรู้ดี  ใต้บ่อปลา  เรามีท่อน้ำต่อไปยังบ่อกรอง  ขี้ปลาทั้งหมดจะถูกดูดโดยปั้มไปยังบ่อกรอง  และปล่อยน้ำใส ๆ กลับมายังบ่อปลา  น้ำในบ่อถึงได้สดใสอยู่เสมอ  ทำให้ปลามีสุขภาพดี  ปลาแข็งแรง ต้องมีระบบจัดการกับขี้ปลา อย่างต่อเนื่อง  ถ้าไม่กรองขี้ปลาออกไป  ปลาว่ายอยู่ในบ่อที่มีขี้ปลา  น้ำจะขุ่นขึ้นเรื่อย ๆ  หาความงดงามไม่ได้ ทั้งจะเป็นโรคด้วย    


                                     

 

 คริสเตียนไม่ต่างจากปลาคร้าฟ  เราต้องแหวกว่ายอยู่ในบรรยากาศที่สดใส  ปราศจากบาป  หากเราทำผิด ไม่จัดการแก้ไข  เราก็จะเหมือนปลาที่ว่ายในน้ำขุ่น ๆ  มืดมัว  ยอห์นกล่าวว่า  “พระเจ้าทรงเป็นความสว่าง  และความมืดในพระองค์ไม่มีเลย ถ้าเราจะว่าเราร่วมสามัคคีธรรมกับพระองค์  และยังดำเนินอยู่ในความมืด  เราก็พูดมุสา  และไม่ได้ดำเนินชีวิตตามความจริง  แต่ถ้าเราดำเนินอยู่ในความสว่าง  เหมือนอย่างพระองค์ทรงสถิตในความสว่าง  เราก็ร่วมสามัคคีธรรมซึ่งกันและกัน  และพระโลหิตของพระเยซูคริสต์  พระบุตรของพระองค์ก็จะชำระเราทั้งหลายให้ปราศจากบาปทั้งสิ้น” ( 1 ยอห์น 1:7 )  เมื่อเรามาหาพระเจ้า  เรามีนิสัยเสียติดตัวมามากมาย  คนไทยเราเรียก นิสัยเสียเช่นนี้ว่า “ขี้”  เช่น  ขี้โกรธ  ขี้เกียจ  ขี้ท้อ  ขี้ขลาด  ขี้เหนียว  ขี้เซา  ขี้แพ้  ขี้คุย  ขี้เมา  ขี้โกง  นิสัยเหล่านี้ผุดโผล่มาเมื่อไร  เราต้องชนะ ขจัดมันออกไปโดยการทรงชำระด้วยพระโลหิตด้วยความเชื่อ  พระเจ้ากำลังสร้างนิสัยใหม่ให้เรา ทุกวัน  อย่าปล่อยให้จิตสำนึกฟ้องร้อง  โดยการฝืนกระทำบาป  และมาดแม้นเรากระทำผิด ให้เรากลับใจสารภาพผิด   ยอห์นกล่าวต่อไปว่า “ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม  ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา  และทรงชำระเราให้พ้นการอธรรมทั้งสิ้น” ( 1 ยอห์น 1:9 )  

 

4.  อาหารปลา

 

               ปลาคร้าฟ  กินอาหารเม็ด  ลอยน้ำ  เราให้อาหารทุกวัน  วันละครั้งตอนเช้า  

 

               ผมอดคิดไม่ได้ว่า คริสเตียนเราต้องอ่านพระคัมภีร์ และศึกษาพระวจนะเสมอ เหมือนปลากินอาหาร จะโตวันโตคืน  เพราะอาหารคือเนื้อหนังมังสาของมัน  พระเยซูตรัสว่า “มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียวก็หามิได้  แต่บำรุงด้วยพระวจนะทุกคำที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า” (มัทธิว 4:4)  ปกติภรรยาเป็นคนให้อาหารปลาทุกเช้า วานนี้  ภรรยาชมปลาชุดนี้ให้ผมฟังว่า ปลาชุดนี้น่ารัก  มีสัมพันธภาพกับคน   คือ  พอเราเดินผ่านบ่อ  ตอนเช้า  มันจะออกัน มาอยู่ที่ผิวน้ำ  อ้าปาก  รอเราโปรยอาหารเม็ด ลงไปในน้ำให้มัน  มันบอกให้รู้ว่ามันกำลังหิว  รอเราให้อาหาร  ซึ่งแตกต่างไปจากปลาชุดอื่น ๆ ที่เคยเลี้ยง  คริสเตียนแสดงอาการหิวพระคำอย่างปลาชุดนี้ก็จะดี  ออกันรออาหารฝ่ายวิญญาณ  อยากเรียน  อยากรู้  อยากเข้าใจพระวจนะ  หมอลูกาเล่าว่า 


                            


                               

 

คริสเตียนรุ่นแรก  เมื่อมาเชื่อพระเยซู  “เขาทั้งหลายได้ขะมักเขม้นฟังคำสอนของพวกอัครทูต”  (กิจการ 2:42) ผมเห็นภาพ นักเรียนหิววิชา เหมือนปลาหิวอาหาร  คนเราใช้ชีวิตถูก  เมื่อเราเข้าใจถูก เมื่อเราไม่รู้ว่าจะดำเนินชีวิตอย่าง  เราจะเฉยเมยไม่เรียนไม่รู้ได้อย่างไร  ผมสอนพระคัมภีร์นักเรียนหลายรุ่น  อดชมนักเรียนชั้นสาวกชุดนี้ไม่ได้  ความกระตือรือร้นอยากเรียน  ทำให้ผมอยากสอน  การมาเรียนค่ำวันอังคารไม่ใช่ง่าย  และการอยู่โบสถ์วันอาทิตย์  เพื่อเรียนพระคัมภีร์ ตอนบ่ายสามโมงครึ่ง ถึงห้าโมงเย็น  ก็ไม่ง่ายเช่นเดียวกัน   


                                      

                                    

 

  5.   แข็งแรงเพราะออกกำลัง

 

              บ่อปลาบ้านผมมีขนาดเล็ก  เส้นผ่าศูนย์กลางแค่เมตรครึ่ง เท่านั้น  พอปลากินอาหารอิ่ม  กลางวัน  มันจะว่ายไปมา  ออกกำลัง  แต่เพราะขนาดบ่อมันเล็ก  มันจึงว่ายไปมาได้ในเนื้อที่จำกัด  ผมไปเห็นบ่อปลาคร้าฟที่อื่นที่มีขนาดกว้างใหญ่  ปลามันจะว่ายวนไปมา  นอกจากมันจะแข็งแรงแล้ว  รูปร่างมันจะเพียวสวย  ร่างระหง ทรงอรชร เสียด้วย  คริสเตียนที่รับพระวจนะแล้ว  หากท่านไม่ออกกำลัง  ไม่รับใช้  ไม่ช่วยคนอื่น  ไม่เป็นพยาน ไม่ออกกำลัง ยากที่ท่านจะแข็งแรง  ทั้งรูปทรงของท่านก็จะไม่งามเสียด้วย   

 

              6.  แฟนซี  คร้าฟ

 

               เขาตั้งชื่อมันว่า  แฟนซี คร้าฟ ก็เพราะพระเจ้าทรงสร้างมันให้มีสีสัน หลากหลาย  ถ้ามันมีแต่สีดำเหมือนปลาหมอ  สีส้มทั้งหมดอย่างปลาทับทิม  สีเหลืองอย่างปลาดุกเผือก  หรือสีเงินอย่างปลาตะเพียน  มันก็คงไม่ได้ชื่อว่า  ปลาแฟนซี  แต่เพราะมันมีหลากสี  หลากลาย ผสมผสานกัน มันจึงสวยงาม  ชวนชม แท้จริงพระเจ้าเป็นผู้แต่งแต้มสีสันให้มัน  มองรวมกันแล้วจึงงามน่าดู ในพระกายพระคริสต์ พระเจ้าทรงประทานให้เรามีความสามารถหลากหลาย  บางคน เป็นผู้หนุนใจเตือนสติ  ผู้ปรนนิบัติ ผู้ต้อนรับแขก  ผู้สำแดงเมตตา  ผู้อุปการะ  เป็นครู  เป็นผู้เลี้ยง  ผู้ประกาศ  ผู้รักษาโรค  ผู้ทำอิทธิฤทธิ์  ผู้บริหาร  ผู้นำ ผู้เผยพระวจนะ สติปัญญา และความรู้  แฟนซีจริง ๆ  แถมปลาในบ่อบ้านผมมีทั้งตัวเล็กตัวใหญ่  อยู่รวมกันได้อย่างดี สันติมาก ๆ   ปลาคร้าฟไม่เหมือนปลากัด  หรือปลาหมอ  งามก็จริงแต่ชอบไล่กัดปลาอื่น  คริสเตียนไม่ใช่ปลากัดน่ะครับ  ปลาคร้าฟที่ผมเพิ่งซื้อมาลงในบ่อใหม่ ๆ ไม่ทราบว่ามันผิดน้ำหรือยังไง  วันสองวันแรกมันชอบกระโดดขึ้นมาจากบ่อ  ถ้าผมเห็นมัน  มันก็นอนตายบนที่แห้งอยู่แล้ว  แต่พอมันคุ้นบ่อ  มันก็ไม่กระโดดไปไหนอีก  คริสเตียนที่คุ้นคริสตจักรไม่ไปไหน  ไม่คิดว่าที่อื่นดีกว่านี้  เราเคยไปต่างจังหวัด  ไม่ได้ให้อาหารปลา 3-4 วัน  มันก็ไม่กระโดดขึ้นมาจากบ่อ  


                                      

 

   7.    ยิ่งโต  ยิ่งงาม

 

             ความจริงอีกประการหนึ่งที่ผมพบ   คือ  ปลาคร้าฟตัวเล็ก ๆ ที่ผมเพิ่งซื้อมา  แม้มีเค้าสีสันสวยงาม  แต่ตอนที่มันยังเล็ก  มันไม่งามเท่าไร  พอมันโตขึ้นเป็นปลาใหญ่  มันสวยเหลือเกิน  สวยทุกตัว  มองดูเพลินตาเพลินใจ   มันงามตามแบบฉบับของมัน  พระเจ้าคงสื่อให้ผมทราบว่า  ผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ งามไปหมดทุกอริยบท พระเยซูนั้นงามเลิศ  ใครเห็นพระองค์ก็หลงรัก  ติดใจความถ่อมพระทัย  พระเมตตา ความยุติธรรม พระทัยสุภาพอ่อนน้อม  อดทน  แข็งแกร่งเราจะไม่เป็นปลาคร้าฟตัวน้อยแคระแกร็น แต่จะโตขึ้น อย่างปลาคร้าฟที่งดงามที่สุด

 

                   ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ                          

 



Visitor 61

 อ่านบทความย้อนหลัง