หน้าหลัก
แนะนำเวปไซท์
ความรู้พระคัมภีร์
แนะนำคริสตจักร
ติดต่อเรา
พลังประจำสัปดาห์
ของฝากจากสูจิบัตร
ลับสมอง ประลองปัญญา
บ้านดีมีสุข
ข่าวประเสริฐ
เรื่องน่าประทับใจ
เพลงชีวิตคริสเตียน
มุมเยาวชน
บทกลอนสอนใจ
ข่าวสารน่ารู้
คำเทศนา
วันพิเศษเหตุการณ์สำคัญ
ศูนย์ฝึกอบรมผู้รับใช้
พันธกิจของเรา
พระเยซู คือพระเอก
ศบ.
“ผู้ใดกล่าวว่าตนอยู่ในพระองค์ ผู้นั้นก็ควรดำเนินตามทางที่พระองค์ทรงดำเนินนั้น” (1 ยน 2:6)
หนุ่มสาวคนไทย ยุคหลัง ๆ มา นิยมชมชอบดารากันมาก ไม่เฉพาะดาราไทย เราคลั่งไคล้ แม้ดาราเกาหลีหรือดาราญี่ปุ่น เราเป็นแฟน ดาวซัลโวในสนามฟุตบอล ทีมแมนยู หรือ ทีมลิเวอร์พูล ถูกนำมาเป็น พรีเซนเตอร์ขายโน่นขายนี่เสมอ เมื่อดาราเหล่านี้เป็นพระเอก นางเอกในดวงใจเรา เราก็มีแนวโน้มเลียนแบบเขา แต่งตัวแบบเขา ไว้ทรงผมอย่างเขา ย้อมสีผมเหมือนเขา พูดเหมือนเขา ใส่รองเท้าแบรนด์เดียวกับเขา ไกลไปถึง ดื่มน้ำอัดลมยี่ห้อเดียวกับเขา ตอนดาวิดฆ่าโกลิอัท ยักษ์นักรบชาวฟะลิศเตีย ด้วยสลิงและก้อนกรวดเม็ดเดียว ดาวิดก็กลายเป็นฮีโร่ในดวงใจของชาวยิว ชั่วข้ามคืน ไปที่ไหน สาว ๆ ก็ตะโกนบอก “ซาอูลฆ่าคนเป็นพัน ดาวิดฆ่าคนเป็นหมื่น” หนุ่ม ๆ ก็คงเริ่มฝึกสลิง ตามรอยเท้า ดาวิด กันเป็นทิวแถว ถ้าเป็นทุกวันนี้ ก็คงไปต้อนรับขับสู้กันที่สนามบิน เอาพวงมาลัยไปคล้องคอ มีนักข่าวไปสัมภาษณ์ มีตากล้องไปถ่ายรูป หรือนั่งในรถเก๋งเปิดประทุน โปรยกระดาษสีทอง ปลิวว่อนลงมาจากตึกสูงสองข้างทาง แต่ผมก็สังเกตว่า ดาวรุ่งที่ส่องแสงแวบวาบ บ่อยครั้ง ดาวดวงนั้นก็ร่วงลงรวดเร็วเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะ พอได้ยินนักข่าว มาสัมภาษณ์เรื่อง “ดาราเตียงหัก”บ้าง “ดาราติดยาม้า” บ้าง เขาต้องมานั่งหน้าไมค์ น้ำตาซึม กราบขอโทษแฟน ๆ ที่ทำให้ผิดหวัง ที่ลาออกไปนอกวงการก็มี
1. ให้พระเยซู เป็นดาราประจำใจ
ความจริง การมีบุคคลที่เราชื่นชอบประจำใจ เป็นสิ่งดี เพราะเป็นวิธีให้เรา มองดูแบบ แล้วปรับปรุงชีวิตของเราให้เหมือนเขา อันเป็นวิธีที่เปลี่ยนแปลงชีวิตได้อย่างรวดเร็ว เร็วกว่าการเรียนเรื่องคุณสมบัติของคนดี เป็นข้อ ๆ แล้วพยายามนำไปปฏิบัติ เพราะเอาเข้าจริงพอเราเผชิญปัญหา เราก็ปฏิบัติไม่ถูก เดินไม่เป็น ต่างจากเลียนแบบพระเอกในดวงใจ
แต่ข้อเสีย ก็คือถ้าเขาคิดผิด ประพฤติผิด ใช้ชีวิตผิด พลิกผันไปจากครั้งแรกที่เราเคยชื่นชอบ เราก็อาจเดินหลงเข้ารกเข้าพงตามเขาไปด้วย
คำถามก็คือ ถ้าอย่างนั้น เราจะเลือกเอาใครเป็นพระเอก
วันนี้ ผมจึงขอเสนอ บุคคลผู้เป็นฮีโร่ ที่ท่านไม่มีวันผิดหวัง เป็นพระเอกในดวงใจ นั่นคือ พระเยซูคริสต์ ครับ ผมรับรองว่า พระองค์จะเป็นแม่แบบ ให้ท่านได้พินิจพิเคราะห์ทุกแง่ทุกมุม ทำตามอย่างพระองค์อย่างไม่ผิดพลาด สักเรื่อง
2. ยอห์นใฝ่หาพระเอก
ยอห์น ลูกศิษย์หนึ่ง ใน 12 คนของพระเยซู เป็นคนหนุ่มที่สุด ผมจึงคิดว่า วัยหนุ่มของยอห์นตอนนั้น คงไม่แตกต่างไปจาก หนุ่มๆ สาวๆ ในปัจจุบัน คือ ชอบฮีโร่ ชอบคนเก่ง คนกล้า คนดี ยอห์นเป็นเด็กหนุ่มใฝ่ดี ยอห์น รู้ดีว่า บรรดาปุโรหิต ธรรมาจารย์ในพระวิหารนั้นใช้ไม่ได้ โกงกินก็มี ฉ้อราษฎร์บังหลวงก็มี ตอนสอนธรรมะในพระวิหาร พูดเสียไพเราะเพราะพริ้ง แต่พอลงมาจากธรรมาสน์ ปฏิบัติตนตรงกันข้ามจากที่พูดโดยสิ้นเชิง ยกตนข่มท่าน ดูถูกดูแคลนชาวบ้าน เอารัดเอาเปรียบคนจน ริบเงินแม่ม่ายก็มี ยอห์นถึงไม่ศรัทธานักธรรมเหล่านี้ ตอนนั้น ยอห์น บัพติสโต เทศนาที่ฝั่งแม่น้ำจอร์แดน นำให้คนกลับใจและรับบัพติสมา ยอห์นเป็นคนโผงผาง ตรงไปตรงมา พูดจาขวานผ่าซาก ไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม ยอห์นซึ่งใฝ่ดีเป็นพื้นอยู่แล้ว จึงชอบ ขันอาสาเข้าไปเป็นลูกศิษย์ลูกหา เขาชอบที่ยอห์นผู้ให้บัพติสมา ถ่อมใจ ไม่หน้าอย่างหลังอย่าง แบบธรรมจารย์ที่เยรูซาเล็ม แต่ทุกวัน ยอห์นผู้ให้บัพติสมาก็พูดถึง “พระเยซู” ว่าพระองค์จะเสด็จมา พระองค์จะมาเป็นพระผู้ไถ่โทษบาป ตัวท่านเองเป็นแค่รถตำรวจ ขับนำทางพระองค์เท่านั้น
3. ยอห์นเลือกพระเยซูเป็นพระเอก
อยู่มาวันหนึ่ง พระเยซูเสด็จมาขอรับบัพติสมาจากยอห์น บัพติสโต ยอห์น เด็กหนุ่มชาวประมงได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้าเบื้องบน ตรัสชัดเจนมาก “ท่านนี้เป็นบุตรที่รักของเรา เราชอบใจท่านมาก จงเชื่อฟังท่านเถิด” พระพักตร์พระองค์เหมือนหนุ่มยิวทั่วไป ธรรมชาติมาก ๆ แต่เปล่งปลั่ง มีราศี ชวนมอง ยอห์น บัพติสโต หันมาทางเขาและอันดรูว์ รุ่นพี่ชาวประมง ศิษย์เอกของตนสองคน พร้อมทั้งพูดว่า “นี่ไง พระเยซู ที่เราพูดถึงเสมอมา” ทั้งสองบอกกล่าวยอห์น บัพติสโต ว่า จะขอตามพระองค์ไป ยอห์น อมยิ้ม พยักหน้า เห็นชอบมาก ๆ ที่ศิษย์ของเขาจะมีพระเอกตัวจริง เป็นฮีโร่ประจำใจอย่างที่เขาใฝ่ฝัน
4. ยิ่งติดตาม ยิ่งศรัทธา
จากวันนั้น ยอห์น ก็ติดสอยห้อยตาม ฟังพระองค์สอน ดูพระองค์รักษาคนง่อย ทรงเปิดตาคนตาบอด เปิดหูคนหูหนวก ทรงเปิดปากคนใบ้ ทรงขับผีออกจากเด็กชักเป็นลมบ้าหมู อย่างอัศจรรย์ จากนาซาเร็ธ ไปคาเปอรนาอูม จากคาเปอรนาอูม ไปบ้านคานา ตอนคนมาฟังนับหมื่น แขวงทศบุรี ที่แถบนั้นไกลเมืองไกลตลาด ตกเย็นคนหิวอาหาร พระองค์สั่งให้พวกเราเลี้ยงเขา ยังนึกเลยว่า จะเอาข้าวปลาอาหารจากที่ไหนมาเลี้ยงคนมากขนาดนี้ สักครู่พระองค์ก็ทรงเสกขนมปัง 5 ก้อน กับปลา 2 ตัว ที่เด็กคนหนึ่งเอามาถวาย ให้สาวกเอาไปแจก ยังกะเล่นมายากล ยิ่งแจกขนมปังยิ่งทวี จนคนได้กินอิ่มหนำสำราญกันถ้วนหน้า ครั้งแรกๆ ที่ติดตามพระองค์ ก็นึกถึง คนยุคก่อนที่ติดตามเอลีชา แต่ไม่นานนัก ตนก็ตระหนักว่า พระองค์ทรงฤทธิ์ยิ่งกว่า ผู้เผยพระวจนะใด ๆ ในอดีต
คนที่ติดตามดารา มาไม่กี่เดือน พอรู้ตัวตนเข้าจริงก็เสื่อมศรัทธา แต่ ตรงข้ามกับยอห์น ยิ่งรู้จักพระเยซูยิ่งทวีศรัทธา
ยอห์นฟังพระองค์เทศนา ที่เนินเขาฝั่งทะเลกาลิลี ชอบพระดำรัสพระองค์มาก พระองค์ให้ความคิดใหม่ ๆ ที่ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน “บุคคลผู้ใดมีใจอ่อนโยน ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก” นิ่มนวล แต่เด็ดขาด แสดงถึงความเชื่อมั่นในพระทัย แดดร้อนเปรี้ยง ลมแรง เหงื่อไหลไคลย้อย แต่ไม่ได้ยินเสียงพระองค์บ่นสักคำ “ระวัง อย่าทำศาสนกิจเพื่ออวดคนอื่น ถ้าทำอย่างงนั้น ท่านจะไม่ได้รับบำเหน็จจากพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์” ยอห์นฟังแล้วอมยิ้ม อดนึกถึง ธรรมมาจารย์ ที่ชอบเดินเชิดหน้าให้ชาวบ้านโค้งคำนับตามตลาดไม่ได้ ขณะเดียวกัน อดคิดไม่ได้ว่า ตั้งแต่ฟังคนสอนมา ยังไม่เคยฟังใครที่พูดเข้าใจง่าย ชัดเจนอย่างนี้มาก่อน พระองค์เป็นนักตีความพระคัมภีร์โทรา หนังสือม้วนที่คนยิวอ่านท่องในธรรมศาลาทุกวันสะบาโต พวกเขาพูดเหมือนนกแก้วนกขุนทองมาเป็นพันปี ฟังไม่รู้เรื่อง แต่พระองค์ทำให้ชาวประมงอย่างตนเข้าใจ ซาบซึ้ง ใสกระจ่างราวกับน้ำในแก้ว ยังคิดว่า จะยกนิ้วหัวแม่โป้งสองนิ้วให้ แต่ดูพระองค์ไม่สนพระทัยได้เกียรติแต่อย่างใด
5. ยิ่งใกล้ชิด ยิ่งชอบความกล้าหาญของพระเยซู
พวกยิวดาหน้าเข้ามาจับผิดพระองค์ไม่รู้กี่ครั้ง โดยเฉพาะเรื่อง การรักษาโรควันสะบาโต คนมือลีบเข้ามาในธรรมศาลา พวกยิวไม่สนใจสักนิด คิดแต่ว่า วันนี้เป็นวันต้องห้าม จ้องจับผิด พระองค์ ว่าจะฝ่าฝืนกฎสะบาโตหรือเปล่า ตรงกันข้ามกับพระเยซูที่มองดูคนมือลีบด้วยพระทัยสงสาร เมตตาที่เขาทุกข์ทรมาน หยิบข้าวของไม่ได้อย่างเรา โดยไม่สะทกสท้านการหาเหตุฟ้องของพวกเขา ทรงเรียกคนมือลีบมาข้างหน้า ถามทุกคนในที่ประชุมว่า “วันสะบาโต ควรทำการดีหรือการร้าย ควรช่วยคน หรือ ควรทำลายคน” ทุกคนเงียบ ยอห์นสะใจ นึกชมพระองค์ “สุดยอด พระองค์ สุดยอด พระเอกอย่างนี้ซิ ที่เราใฝ่ฝัน” วันนั้น ทรงสั่งให้คนมือลีบเหยียดมือออก แกก็หายขาดทันที ต่อหน้าต่อตาทุกคน มือเขาปกติเหมือนมือเรา คนมือลีบดีใจจนน้ำตานองแก้ม แต่พวกนั้นยิ่งโกรธ ขนาดคิดจะฆ่าจะแกงพระองค์
6. ทุกอากัปกริยา น่าเรียนรู้ไปหมด
ยอห์น ไม่ยอมให้ตนเองพลาด ที่จะอยู่ใกล้ชิดและรู้จักพระองค์อีกต่อไป เขาเฝ้าดูพระองค์วันเสด็จเข้ากรุง วันที่ทรงอธิษฐานในสวนเก็ธเซมาเน ตอนพระองค์ถูกตรึงที่ไม้กางเขน เขาจำทุกถ้อยคำของพระองค์ที่พระองค์ตรัสที่ไม้กางเขน วันที่ทรงฟื้นคืนพระชนม์และพระบัญชาก่อนเสด็จไปสู่สวรรค์ นี่คือ “พระเอก” ที่ยอห์นติดตาม และยึดถือเป็นแบบ
7. ยอห์น ประพฤติ และกล้าเหมือนพระเยซู
คนเราชื่นชม คลั่งไคล้ใคร เราเปลี่ยนไปเหมือนคนนั้นโดยไม่รู้ตัว หลังจากพระเยซูเสด็จสู่สวรรค์ เปโตรและยอห็นต้องนำคริสตจักรเยรูซาเล็ม เขาลุกขึ้นประกาศอบ่างเดียวกับที่พระองค์กระทำ พวกเขาถูกยิวต่อต้าน อย่างเดียวกับพระเยซูถูกการต่อต้าน สภาสูงของยิว 70 คน ที่เคยใส่ความเท็จและนำพระเยซูไปส่งให้ปีลาต ประหารที่ไม้กางเขน เล่นงานตนกับเปโตร ในข้อหาว่า “มีสิทธิอะไรมารักษาคนง่อยที่พระวิหาร” ทั้งสองก็โต้ตอบสภาสูงอย่างเป็นเหตุเป็นผล ฉะฉาน ไม่สะทก สท้านแม้แต่น้อย เหมือนพระเยซู จนพวกยิวนิ่งอั้นพูดไม่ออก จนทำให้พวกยิวทึ่งความกล้าหาญ และนึกขึ้นได้ว่า เขากล้าเพราะเคยอยู่กับพระเยซู (กิจการ 4:13)
8. ยอห์นเชิญชวนให้เราเลือกพระเยซูเป็นพระเอก
ยอห์น ชื่นชมพระเยซู ยิ่งกว่าหนุ่มสาวคลั่งไคล้ดารา ครับ ยอห์นเลือก บุคคลถูก ท่านชวนเชิญให้เรา เลือกพระองค์เป็นพระเอกในดวงใจเช่นกัน “ซึ่งเราได้ยิน ซึ่งเราได้เห็นกับตา ซึ่งเราได้พินิจดู และจับต้องด้วยมือของเรานั้น เกี่ยวกับพระวาทะแห่งชีวิต (พระเยซู) เราได้เห็น และเป็นพยาน และประกาศชีวิตนิรันดร์แก่ท่านทั้งหลาย
9. ข้อพิสูจน์ ว่าพระองค์คือพระเอกในดวงใจ
ยอห์นพูดกับเรา ว่า “ผู้ใดกล่าวว่า ตนอยู่ในพระองค์ ผู้นั้นควรดำเนินตามทางที่พระองค์ทรงดำเนินนั้น” อยู่ในพระองค์ แปลว่า รอดโดยวางใจในการไถ่โทษของพระองค์ ดำเนินชีวิตสนิทพระองค์ อย่างกิ่งติดกับต้น เป็นสาวกพระองค์ ให้พระองค์เป็นแม่แบบ เป็นดาราที่ตราตรึง เป็นหนึ่งในดวงใจ ยอห์นแนะว่า คนนั้นควร ดำเนินตามที่พระองค์ดำเนิน พระเยซูใช้ชีวิตบริสุทธิ์ ไม่ทำบาป ไม่อยู่ในความมืด พระองค์ดำเนินในความสว่าง ไม่ปิดบังซ่อนเร้น แต่อยู่บนความจริง พระองค์รักพระบิดา รักคน ไม่ดูถูกคน มุ่งช่วยเหลือคน นำคนมาพบความรอด พระองค์กล้าหาญยืนบนความถูกต้อง
10. เราเองก็ควรเป็นแบบให้คนอื่นด้วย
นี่ไม่ใช่การแย่งซีน จากพระเยซู ตรงกันข้าม เวลาคนเห็นเรา ให้เขาเห็นพระเยซู ในเรา เราที่มีพระองค์เป็นแบบ สมควรดำเนินชีวิตเป็นแบบ แก่คนอื่น ๆ ด้วย เราควรเป็นพยาน ให้คนอื่นเห็น และเดินตาม “นี่เป็นข้อความที่เราได้ยินจากพระองค์ เราบอกแก่ท่านทั้งหลาย” ( 1 ยน 1:2,5) เปาโลว่า “ท่านทั้งหลายจงปฏิบัติตามอย่างข้าพเจ้า เหมือนอย่างที่ข้าพเจ้าปฏิบัติตามอย่างพระคริสต์” ( 1 คร 11:1)
บ้าดาราคนอื่น วันหนึ่งท่านอาจผิดหวัง ท่านอาจหมดศรัทธา ท่านอาจนำเขามาเผยแพร่ได้บางเรื่อง บางเรื่องท่านอาจถูกฟ้อง ถูกแบน หรือถูกสั่งให้ลบ
ครับ เชื่อผมเถอะ มีบุคคลเดียวในโลกที่ ท่านยึดถือ ชื่นชอบ ติดตาม เป็นแฟนเพท ชื่นมื่น ใฝ่หา คลั่งไคล้ เลียนแบบ เอาอย่าง กอปปี้ชีวิต ยึดเป็นพระเอกในดวงใจ เอามาเป็น idol ได้ ทั้งหลับ ทั้งตื่น ขณะนั่งบนรถ ลงเรือ ไปเหนือล่องใต้ ทั้งส่วนตัวและเป็นกลุ่ม ทั้งเอามาอ่านในอีเมล์ส่วนตัว หรือ แชให้โลกรู้ ทั้งโพสท์ในเฟสบุ๊ค ไลน์ อินสตราแกรมส์ เขียนลงเวปไซท์ ยูทูป เขียนโปสเตอร์ เรื่องการกระทำ คำพูด อารมณ์ การตัดสินใจ วิสัยทัศน์ นโยบาย คำสอน ได้โดยไม่มีอันตรายใด ๆ 100 เปอร์เซ็นต์
มีแต่ “ดี” อย่างเดียว เชื่อผมเถอะ
Follow @bfcbkk
Tweet to @bfcbkk
Visitor 149
อ่านบทความย้อนหลัง