ดาร์ซี่ ลินน์

ศบ.

 

วันนี้  ผมจึงถือโอกาส   นำเรื่องของดาร์ซี่  ลิน มาเล่าสู่กันฟังสักหน่อย  แม้มันผ่านปี 2017 มาแล้ว แต่เรื่องราวของเธอยังไม่ตกยุคน่ะ แถมยิ่งโด่งดังยิ่งขึ้น

 

              ดาร์ซี  ลินน์  ฟาร์เมอร์  เป็นลูกคนที่ 3 ของ คลาก และมีสตี้ ฟาร์เมอร์  เกิดเมื่อวันที่ 12 เดือนตุลาคม ปี 2004  ที่เมืองโอคลาโฮม ซิตี้  รัฐโอคลาโฮมา  สหรัฐอเมริกา  เธอรักการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก  แต่ดาร์ซี  เป็นเด็กขี้อาย  โดยเฉพาะเวลาไปยืนต่อหน้าคนมาก ๆ ในห้องประชุม คุณพ่อคุณแม่ของเธอช่วยให้เธอกล้าหาญขึ้นโดยการส่งเธอไปร่วมรายการ ซินเดอเรลลา สกอลาชิฟ นานาชาติ  ทำให้เธอได้รับมงกุฎ มินิ มีส  นานาชาติ   คนเราต่างมีจุดอ่อนของตนเป็นธรรมดา แทนที่เราจะบอกตัวเองว่า  เราแย่อย่างนั้นอย่างนี้   ถ้าเรามุ่งมั่นเอาชนะ  จุดอ่อนก็กลายเป็นจุดแข็งได้

 

              ดาร์ซี ลินน์  มาสนใจการพากย์ตุ๊กตาหุ่นได้อย่างไร

 

              ตอนเป็นเด็กรวีฯ  ดาร์ซี เคยเห็นการเชิดตุ๊กตาหุ่น ที่โบสถ์  ผมพอนึกภาพออก  เพราะผมเคยเห็นครูรวีฯ ที่มีความสามารถ เชิดตุ๊กตาเรื่องราวในพระคัมภีร์  เช่น เรื่องโยนาห์  หรือ ศักเคียส  โดยที่ครูไม่ขยับปากเลย  ทำให้เราหลงว่าตุ๊กตา “โยนาห์” เป็นผู้พูดเอง

 

               กอปรกับในช่วงการประกวด มินิมีส นานาชาตินั้น  เธอได้พบกับ   ลาริสซา โบนาควีติ  นักพากย์ตุ๊กตาหุ่น  แนะนำให้เธอทดลองฝึกพากย์ดูบ้าง เพื่อเธอจะได้เอาชนะความขี้อาย  ดาร์ซี จึงเริ่มฝึกหัดพากย์เสียงตุ๊กตาหุ่น ด้วยตนเอง   เพราะเธอมีพรสวรรค์ในการร้องเพลงอยู่แล้ว   


                         

ดาร์ซี จึงฝึกพากย์เสียงร้องเพลงโดยไม่ขยับริมฝีปากด้วย   ความจริง ลูกทุกคนของคลาก และมีสตี้  ต่างชอบกีฬา ยิสนาสติก  ซึ่งก็ทำให้ ดาร์ซี  เองสามารถตีลังกา  ม้วนตัวกลางอากาศ ใน กีฬา ฟลอ เอ็กเซอร์ไซ  ได้ไม่เลวเลย  แต่พอเธอหันมาจับการฝึกพากย์หุ่น เธอก็รามือจากการเล่นกีฬา   ผมดูประวัติของหนูน้อยดาร์ซี  ก็อดคิดถึงเด็กรวีฯของเราไม่ได้  พระเจ้าทรงประทานตะลันให้เราแต่ละคนไม่เหมือน  ถ้าเราค้นให้พบ  ฝึกหัดสิ่งที่ชอบอย่างจริงจัง  ตะลันที่ซ่อนอยู่สามารถพัฒนาให้รุ่งโรจน์ได้   

 

             ตอนดาร์ซี่  ลินน์อายุ 10 ขวบ คือเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมานี้เองคุณพ่อคุณแม่ซื้อตุ๊กตาตัวหนึ่ง  ราคาไม่แพง ผ่านทางอีเบย์  ให้เธอเป็นของขวัญวันเกิด  เธอจึงเริ่มฝึกหัดพากย์ให้ตุ๊กตาพูด  คนเราเมื่อตั้งใจ  ฝึกซ้อมอะไร ครั้งแล้วครั้งเล่า  เราก็เกิดความชำนาญ  สำหรับดาร์ซี่ ลินน์  ต้องเรียกว่า   มิใช่แต่การฝึกซ้อมเท่านั้น   แต่เป็นพรสวรรค์ที่พระเจ้าประทานให้ของเธอด้วย บิล คิง  ของรายการ บัดดี้ ทีวี พูดในรายการ ยูเอสเอ ทูเดย์  ท่านให้ความเห็น  หลังจากการโด่งดังสุดโต่งของเธอว่า  หนูน้อย ดาร์ซี่  วัย 12 ขวบ “เป็นนักพากย์ ยอดเยี่ยมคนหนึ่งที่ตนเคยเห็น”  เขาเรียกเธอว่า “เป็นคนที่มีตะลันอัจฉริยะที่สุดคนหนึ่งบนโลกใบนี้”      


                      

การพากย์เสียงพูดผ่านตุ๊กตาหุ่น   ทำให้เธอไม่ต้องสบตากับคนที่เธอพูดด้วย   จึงแก้ความอายของเธอได้อย่างดี   แต่มาถึงวันนี้  แม้พูดกับคนจำนวนมาก ๆ ในโรงละคร   ดาร์ซี่  ลินน์ก็พูดจาฉะฉาน  หมดอายไปนานแล้ว  ดูซิ  เมื่อคนเราต้องการเอาชนะจุดอ่อนของตน เราไม่เพียงแต่ชนะมันได้เท่านั้น   เรายังเก่งเกินคนกล้าได้ด้วย

 

             ก่อนมาถึงชัยชนะล่าสุดในรายการ อเมริกัน  กอด เทเลนท์ 2017  เธอก็ค่อย ๆ ไต่ขึ้นมาในเวทีต่าง ๆตามลำดับ    ปี 2014  เธอได้รางวัลที่หนึ่ง  ในรายการเอลมอนด์ กอด เทเลนท์  ในปี 2015  เธอก็คว้ารางวัลที่ 1 ในการแข่งขันระดับจูเนียร์  ของ โอคลาโฮมา  กอด เทเลนท์  และของบอร์ดเวย์  ด้วย  ในเดือนมีนาคม  ปี 2016  เธอชนะที่รัฐมิสซูรี่  และเดือนกรกฎาคม 2016  เธอก็คว้ารางวัลที่ 1 อีก  และอย่างที่ทราบกัน  เธอเข้าแข่งขันในรายการ อเมริกัน กอด เทเลนท์  2017  ฤดูกาลที่ 12 ครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2017 โดยใช้ตุ๊กตากระต่าย ชื่อว่า เพนทูเนีย  ทุกคนพอใจ  ลุกขึ้นปรบมือให้  กรรมการหญิง เมล บี  ประทับใจมาก  ลุกขึ้น กด Golden Buzzer ทำให้เธอลอยลำเข้าไปสู่รอบรองชนะเลิศทันที   ครั้งต่อมา เธอจึงมีเพลงให้กับแมล บี  ในรอบสุดท้าย  และเธอยังร้องเพลงแบบสองเสียง (ใช้หุ่นเชิด  2 ตัว ) เล่นเอากรรมการ และคนดูทึ่งสุด ๆ   เมื่อถึง 2 คนสุดท้าย  เธอก็ชนะหนูน้อยวัย 10 ขวบ แองจิลิกา  ผู้มีพลังเสียงเหลือเชื่อคนหนึ่ง  แองจิลิกาโผเข้าไปกอด  ดาร์ซี่ ลินน์  น่ารักยิ่ง 

 

   เธอคว้ารางวัล  1  ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นเงินไทยก็ราว ๆ  30  ล้านบาท  มีคนเข้าไปชมมากกว่า 2.6 ล้านล้าน วิวผ่าน เฟสบุ๊ค ยูทูป และทวิตเตอร์  เรียกว่าในเวลาอันสั้น  แล้วรายการต่างก็ต้องการให้เธอไปแสดงที่โน่นนี่นั่นตามฟอร์ม  แต่ที่น่าชม คือเธอไม่ลืมโบสถ์ คริสตมาสที่โบสถ์ ที่ผ่านมาเธอพากย์เสียงตุ๊กตาร้องเพลงคริสตมาส  ถวายพระเกียรติ

 

             มีนักข่าวไปสัมภาษณ์ว่า  เงินที่ได้มาเยอะแยะขนาดนี้จะเอาไปใช้ทำอะไร

   

             ผมไม่ทราบว่าเป็นความคิดของพ่อแม่หรือไม่ ถ้าคิดได้เอง  ก็ยิ่งน่าทึ่ง เธอตอบว่า   อันดับแรก เงินจำนวนนี้ส่วนหนึ่งจะถวายให้งานพันธกิจที่คริสตจักร  เพราะคริสตจักรของเธอทำงานช่วยเหลือคนมาก  ลืมบอกไป  เธอเป็นสมาชิกคริสตจักรของคนใช้   (Church of Servant)  คริสตจักรนี้ตั้งอยู่บนถนน นอร์ท แมคอารเธอร์  ในเมืองโอคลาโฮมา ซิตี้  เป็นคริสตจักรที่มีนิมิตในการช่วยสงเคราะห์ผู้หิวโหย ศิษยาภิบาลรายงานว่า ตั้งแต่ปี 2010  เป็นต้นมา  คริสตจักรทำกล่องอาหารส่งไปช่วยคนที่ต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อคนหิวโหย 1,165,152  มื้ออาหาร  อันดับที่สอง เธอจะชื้อเครื่องซักผ้าให้คุณแม่   อันนี้ต้องเรียกว่าลูกกตัญญู  

 

           ผมนำเรื่องหนูน้อย  ดาร์ซี ลินน์ มาเล่าให้ฟัง  เป็นบทเรียนกับเราหลายเรื่อง

 

1. พระเจ้ามักให้อะไร ดี ๆ ผ่านมาทางชั้นรวีฯ และผ่านคริสตจักร

 

2. จุดอ่อนที่คนเรียกว่าปมด้อย  หรือข้อเสีย  ถ้าเราไม่ยอมแพ้  หรือใช้เป็นข้อแก่ตัวให้งอมืองอเท้า ไม่ทำอะไร เช่น ตัวเตี้ย  พูดติดอ่าง ขี้อาย พิการ เป็นคนบ้านนอก  เกิดมาจน แต่กลับต่อสู้เอาชนะ  มันสามารถเป็นจุดแข็งของคนเราได้

 

3. มีเด็กรวีฯ จำนวนมากที่ฟังครูสอน  ฟังเทศน์  แต่มีไม่มากที่เอาคำสอนนั้นมาปฏิบัติ  มีน้อยลงไปอีก  ที่มองว่าตนต้องทำได้เหมือนครู  ครับ ยิ่งหาได้ยากยิ่ง ที่คิดว่า ตนต้องทำให้ดียิ่งกว่าครู 


                      

 

   4. ไม่มีใครทำอะไรให้ดี โดยไม่ต้องฝึกฝน  ยิ่งเป็นตะลันเรายิ่งฝึกง่าย  การร้องเพลงเพราะ วาดเขียนเก่ง  คิดเลขเร็ว  เล่นดนตรีเก่ง  แต่งกลอนไพเราะ  เล่านิทานเก่ง  ถ้าไม่ฝึกมันก็ไม่พัฒนา  พระเจ้าให้ความสามารถเพื่อเราจะได้ฝึกฝนให้เก่งขึ้นทั้งนั้น

 

5.  การก้าวขึ้นไปสู่ชัยชนะ  ไม่มีใครกลัวการแข่งขัน  การแข่งย่อมมีแพ้มีชนะ  การพ่ายแพ้ในสนามแรกมิได้ปิดฉากชีวิต  แต่เป็นขั้นตอนไปสู่การแข่งขันครั้งต่อไป

 

6. ยกย่องพระเจ้า  สำหรับความสามารถทุกอย่างที่เรามี   พระเจ้าต่างหากเป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทให้เรา 

 

7. การเชื่อฟังพ่อแม่  เป็นโอกาสเรียนรู้ที่ประเสริฐที่สุด    

 

                ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ  

 



Visitor 173

 อ่านบทความย้อนหลัง