การรอคอย

ศบ.
(สดุดี 27:13-14)

ข้าพเจ้า​เชื่อ​แน่​ว่า ข้าพเจ้า​จะ​เห็น​พระ​คุณ​ของ​พระ​เจ้าที่​ใน​แผ่นดิน​ของ​คน​เป็น จง​รอ​คอย​พระ​เจ้า จง​เข้มแข็ง และ​ให้ จิตใจ​ของ​ท่าน​กล้า​หาญ​เถิด เออ จง​รอ​คอย​พระ​เจ้า​
มีผู้กล่าวว่า “การอดทน ไม่ใช่ความสามารถรอคอย เป็นความสามารถรักษาท่าทีที่ดีในขณะที่รอคอย”

1. เป็นพระประสงค์ให้เรา ฝันสิ่งที่ทรงคุณ
คนเราอยากเห็นสิ่งดีเกิดขึ้นในชีวิตนี้ อยากเห็นคนไทยมาหาพระเจ้าเป็นหมื่น เป็นแสน เป็นล้าน อยากเห็นคริสตจักรเกิดขึ้นทั่วทุกอำเภอ ตำบลในเมืองไทย ในชีวิตนี้ ไม่ใช่รอจนถึงโลกหน้า ดาวิดก็เช่นเดียวกัน ท่านกล่าวว่า “ ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่า ข้าพเจ้าจะเห็นพระคุณของพระเจ้าที่ในแผ่นดินของคนเป็น” เหมือนกับคำอธิษฐานตามอย่างพระเยซู “ขอให้แผ่นดินของพระเจ้ามาตั้งอยู่ สำเร็จในสวรรค์อย่างไร ขอให้สำเร็จในแผ่นดินโลกเหมือนกัน” แล้วเราก็มีฝันดี ๆ อีกเยอะ โยเอล กล่าวว่า “ในยุคสุดท้าย ..คนหนุ่มจะเห็นนิมิต และคนแก่จะฝันเห็น” ( กิจการ 2:17) ถ้าฝันแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็คงเป็นฝันเฟื่องไป โยเอลน่าจะ หมายความว่า เมื่อพระเจ้าให้ฝัน แล้วพระองค์ทรงประสงค์ให้ฝันนั้นเป็นจริงด้วย

2. ความฝัน สิ่งที่ทรงคุณ น่าตื่นเต้น
ดาวิด ตั้งแต่เป็นเด็กเลี้ยงแกะที่ทุ่งนา สนิทสนมกับพระเจ้า วันหนึ่ง ซามูเอล ผู้เผยพระวจนะ ไปเจิมตั้งดาวิดเป็นกษัตริย์แทนกษัตริย์ ซาอูล ที่ดื้อดึงพระเจ้า (1 ซามูเอล 16:13) นี่คือการบอกให้ทราบล่วงหน้า เป็นการตีตราจองไว้ เป็นพระประสงค์ของพระเจ้า พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อันล้ำเลิศให้ผู้เชื่อเสมอ บางครั้งอาจผ่านทางผู้รับใช้ เช่น ซามูเอล มาเจิมตั้งดาวิด ตอนโยเซฟยังอยู่กับยาโคบ พระเจ้าให้โยเซฟฝันว่า ฟ่อนข้าวของตนชูตระห่าน ฟ่อนข้าวของพวกพี่ ๆ จะโคงคำนับฟ่อนข้าวของตน คงแปลว่า วันหนึ่งตนจะปกครองพวกพี่ ๆ พระเยซูตรัส กับเปโตรว่า เราจะให้ ท่านเป็นผู้จับคนดั่งจับปลา ตั้งแต่วันที่เขาฟังพระองค์ หย่อนอวนลงที่น้ำลึก ตอนกลางวันแสก ๆ เปโตรตื่นเต้นไม่น้อย คราวที่เซาโลพบพระเยซู เมื่อท่านเดินทางไปข่มเหงคริสเตียนที่ดามัสกัส พระเยซูบอกให้เซาโลทราบผ่านทางอานาเนีย ว่า พระเจ้าจะใช้ท่านเป็นผู้ประกาศแก่คนต่างชาติ แก่คนยิว และแก่กษัตริย์ คนเราเวลาทราบนิมิต ได้ความฝัน เช่นนี้ ย่อมตื่นเต้นเป็นธรรมดา

3. แต่ บ่อยครั้งฝันเหล่านั้นมิได้เกิดทันทีทันใด
โยเซฟ จากวันที่รับความฝัน จนถึงวันที่พวกพี่ชายไปขอซื้อข้าวจากเขาที่อียิปต์ นานหลายปี ดาวิด จากวันที่ซามูเอล เจิมท่าน จนวันเป็นกษัตริย์ นานไม่ต่ำกว่า 17 ปี ตั้งแต่พระเยซูเรียกเปโตร จนกระทั่งท่านเทศนาในวันเพนเตคศเต มีคนกลับใจถึง 3,000 คน นานกว่า 3 ปี เซาโลก็เช่นเดียวกัน กว่าจะได้เดินทางไปเป็นมิชชั่นนารี ครั้งแรก นานไม่ต่ำกว่า 7 ปี นี่คือสิ่งที่บ่งบอกให้เราทราบว่า เมื่อเราได้รับนิมิต แล้วพระเจ้าทรงประสงค์ให้เรารอคอย

4. พระเจ้าสอนให้เรารอคอย ความสำเร็จ
การรอคอย เป็นเรื่องยากที่สุดสำหรับ คนที่มุ่งมั่นให้เกิดสิ่งนั้นสิ่งนี้ขึ้นทันทีทันใด และเมื่อไม่ได้ดังใจเรา เราก็จะออกอาการงุ่นง่าน การกระสับกระส่ายขณะรอคอย เป็นเครื่องบ่งชี้ว่า เราเป็นคนอดรนทนไม่ได้ และแสดงว่าเราไม่ได้ไว้วางใจพระเจ้า ดาวิด อัลเลน กล่าวว่า “การอดทน คือการยอมรับอย่างสงบ ว่าสิ่งนั้น ๆ อาจเกิดขึ้นแตกต่างไปจากที่เราคาดคิด”
ดาวิดถึงได้กล่าวว่า “จงรอคอยพระเจ้า” สิ่งหนึ่งที่เราควรทราบคือ เมื่อพระองค์ให้เรารอคอย แสดงว่าช่วงเวลาเหล่านั้น พระเจ้ากำลังเร่งทำการของพระองค์อยู่ แน่นอนพระองค์ทรงทำการอย่างกระตือรือร้นเสียด้วย ทั้งทรงทราบดีว่า มันจะดำเนินไปความสำเร็จได้อย่างไร โดยพระองค์เป็นผู้ทำการเอง ขณะที่พระองค์ทรงกระทำ เราต้องไว้วางใจพระองค์ เหมือนชาวนาปลูกข้าว ดำนา เมื่อทดน้ำเข้านาแล้ว จากนั้นพระเจ้าก็ทรงทำการของพระองค์ ข้าวโตวันโตคืน จนออกรวง เราจะไปเร่งรัดอะไรก็ไม่มีประโยชน์ จะไปขุดรากขึ้นมาดูว่า มันงอกแค่ไหนแล้ว เอาไปฝังดินปลูกใหม่ ขุดขึ้นมาดูแล้วดูอีก ต้นข้าวก็เฉาตายไปเปล่า ๆ กสิกรจึงต้องเพียรรอคอย (ยากอบ 5:7-8)

5. รอคอยอย่างกระตือรือร้น
การรอคอย ไม่ใช่ ปล่อยทิ้ง อย่างคนขี้เกียจ แต่ก้าวไปตามครรลอง โดยไว้วางใจ ไม่ว้าวุ่น โดยรู้ว่าสุดท้ายผลต้องออกมาดี โยเซฟขณะถูกพวกพี่ชายขายไปเป็นทาส อยู่ที่บ้านโฟทิฟาร์ ท่านขยันขันแข็งทำงาน จนเจ้านายรัก และไว้วางใจ ดาวิดขณะเลี้ยงแกะที่ทุ่งนา ก็ขยัน เอาข้าวห่อไปส่งให้พวกพี่ชายที่เป็นทหาร เมื่อมีโอกาส ดาวิดก็ออกไปสู้กับยักษ์จนชนะ เมื่อไม่ซาอูลว้าวุ่นพระทัย เพ้อคุ้มคลั่ง ดาวิดยินดีไปดีดพิณให้ซาอูลคลายพระทัย แม้เมื่อซาอูลอิจฉาตน ตามล่าเอาชีวิต ดาวิดก็หลบหนีไปตามที่ต่าง ๆ โดยพึ่งพระเจ้าตลอด ในยามที่ซาอูลเพลี่ยงพล้ำ ดาวิดอาจฆ่าซาอูลได้ ตนก็ไม่ทำ เพราะตระหนักว่า การก้าวสู่น้ำพระทัยมิใช่การพยายามปีนขึ้นไปสู่อำนาจ แม้ตอนที่ซาอูลสิ้นพระชนม์แล้ว ดาวิดก็ไม่ฉวยโอกาสนั้นเข้าไปยึดครองเยรูซาเล็ม อันเป็นเมืองหลวง แต่ตนเลือกไปปกครองเฮบโรน ซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ เท่านั้น การรอคอยเวลาของพระเจ้า ดาวิดรู้ดีว่า ต้องมาจากพระเจ้า ไม่ใช่ทะเยอทะยานไขว่คว้าเอาตามอำเภอใจ
คนที่รอคอย เวลาของพระเจ้า ไม่ใช่คนเหยาะแหยะ ขี้เกียจ นั่งคอยนอนคอย แต่ทำสิ่งดีที่สุดที่ตนสามารถทำได้ นี่เป็นเหตุผลที่ท่านพูดว่า “จงเข้มแข็ง และให้ จิตใจของท่านกล้าหาญเถิด” ซึ่งหมายถึงการที่จิตใจเราไม่หวั่นไหว แต่มั่นคง ชาวนาที่รอข้าวสุก สามารถเตรียมยุ้งได้ เซาโลก่อนพระเจ้าใช้ออกไปเป็นมิชชั่นนารี ครั้งแรก ท่านเคยใช้เวลาค้นคว้าพระวจนะที่อาระเบีย นาน 3 ปี ท่านไปสอนพระคัมภีร์ที่เมืองอันทิโอก กับ บาระนาบัส 1 ปีเต็ม ผู้เชื่อที่อันทิโอกได้ชื่อว่าเป็นคริสเตียนครั้งแรก แสดงว่า สาวกที่นั่นโตขึ้นฝ่ายวิญญาณ จนกระทั่งวันหนี่ง เวลาของท่านมาถึง พระวิญญาณตรัสกับคริสตจักรอันทิโอก ให้ส่ง เซาโลกับบาระนาบัสออกไปเป็นมิชชั่นนารี

6. ขาดการอดทน มีแต่ผลเสีย
คนที่รอคอยไม่ได้ จะบ่น สเปอร์เจียน กล่าวว่า “คนที่อดทนรอคอยพระเจ้า จะไม่บ่น ไม่ขบถ เหมือนอย่างคนอิสราเอล พร่ำบ่นกับโมเสสในถิ่นทุรกันดาร” คนยิวบ่นเรื่องน้ำ เรื่องอาหาร เรื่องดินแดนที่ตนจะเข้าไปยึดครอง จนพระเจ้าไม่ยอมให้ ยิวรุ่นนั้นเข้าไปยังดินแดนพระสัญญาสักคน เขาจะรีบลุกขึ้นมาจัดการเสียเอง โดยออกนอกทางพระเจ้า การรีบเร่ง ทำให้เราไม่ได้สิ่งดีตามพระประสงค์ เมื่อพระเจ้าตรัสกับอับราฮามเรื่องการมีลูกหลานมากมายเหมือนดาวดารดาษบนท้องฟ้า อับราฮามและซาราย เคยพลาด ทั้งสองจะช่วยให้พระสัญญาเป็นจริงโดยวิธีของตนเอง คือ ให้อับราฮามเข้าหานางฮากา สาวใช้ชาวอียิปต์ ผลที่ได้คือ เกิดอิชมาเอล ซึ่งต่อมา กลายเป็นปัญหากับลูกหลานของตน แทนที่รอคอย การตั้งครรภ์ของนางซาราย คลอด อิสอัค ลูกแห่งพระสัญญา นี่คือตัวอย่างของคนที่อดรนทน ตอนที่ซาอูลจะรบกับพวกฟะลิศเตีย ก็เช่นเดียวกัน ซามูเอล ผู้เผยพระวจนะ นัดมาถวายเครื่องบูชาที่กิลกาล ในวันที่เจ็ด แต่เอาเข้าจริง ซาอูลอดทนไม่ไหว เผาเครื่องบูชาเสียเอง ซึ่งไม่เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า และนี่คือเหตุแรกที่พระเจ้าทรงปลดซาอูลจากการเป็นกษัตริย์ หนุ่มสาวก็เช่นเดียวกัน คนไทยเราว่า ช้า ๆ ได้พร้าสองเล่มงาม การมีคู่ครอง เราต้องเรียนรู้จักการรอคอย อย่าชิงสุกก่อนห่าม ภาษิตนี้ของคนไทย หมายถึงอย่าไปเร่งเด็ดมะละกอขณะที่มันยังไม่สุก ให้มันสุกคาต้น ดีกว่าไปเด็ดมะละกอดิบ เมื่อยังไม่ถึงวาระ การเร่งรัก โดยไปผิดพลาดกัน เป็นการทำลายชีวิตของทั้งสองฝ่าย

7. รางวัลของการเพียรรอคอย
พระเจ้ามีเวลา และรางวัลให้แก่ผู้รอคอยได้เสมอ เบนยามิน แฟรงคลิน กล่าวว่า “คนที่อดทน ได้รับสมปรารถนาเสมอ” มายา แองเจลู กล่าวว่า “ความสำเร็จชิ้นใหญ่ ต้องอาศัยเวลา” เปาโลกล่าวว่า “อย่าให้เราเมื่อยล้าในการทำดี เพราะว่าถ้าเราไม่ท้อใจแล้ว เราจะเกี่ยวเก็บผลในเวลาอันควร” (กาลาเทีย 6:9) พระเจ้าบัญชาโมเสส ให้รอคอยการช่วยเหลือจากพระเจ้า ก่อนที่พระองค์จะแหวกทะเลแดง และให้คนยิวเดินข้ามไป แล้วความรอดมหัศจรรย์ก็เกิดกับชาวยิว (อพยพ 14:14) พระเยซูรอยคอย 42 ชั่วอายุคนนับแต่อาดัมทำบาป จนถึงวันที่พระองค์เสด็จเข้ามาในโลก แล้วไม้กางเขน อันเป็นหนทางแห่งความรอดยิ่งใหญ่ได้บังเกิดขึ้น (กาลาเทีย 4:4)
ฝันน้ำพระทัย วางใจคงมั่น
ขยันกล้าหาญ เบิกบานรอคอย
พระเจ้าขับเคลื่อน เหมือนงานซ่อนเร้น
วันหนึ่งแลเห็น เด่นเช่นเพชรพลอย

ขอพระเจ้าอวยพระครับ