คุณแม่เขียน ถึงลูก

 


ศบ.
วันอาทิตย์นี้เป็นวันแม่ของคริสตจักร


คุณแม่ผมจากไปนานหลายปีแล้ว ขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่ท่านทำสิ่งหนึ่งที่ลูก ๆ ทุกคนรู้ดี คือ การเขียนจดหมายถึงลูก 6 คน ท่านมักจะลุกขึ้นมาตั้งแต่ตีสาม ท่านว่า ท่านนอนไม่หลับ เหมือนพระเจ้าปลุกให้ลุกขึ้นมาอธิษฐาน นอกจากอธิษฐานแล้ว ท่านก็ใช้เวลาเขียนจดหมายถึงลูก ๆ บางครั้งก็เขียนถึงเป็นรายบุคคล บางครั้งก็เขียนถึงลูกทุกคนในฉบับเดียว พวกเราก็ต้องก๊อปปี้ เอามาแจกกันอ่าน ข้อเขียนเหล่านี้ถูกเก็บไว้แทบทั้งหมด ไม่กี่ปีก่อนท่านจากไป ร่างกายท่านอ่อนแรงลงมาก ไปไหนๆไม่ได้อย่างแต่ก่อน ผมเคยขอท่านว่า คุณแม่ยังทำสิ่งที่ดีที่สุดได้ นั่นคือ ประสบการณ์คุณแม่มีมาก ทั้งท่านเป็นครูด้วย คุณแม่ช่วยเขียนไว้ให้พวกเราที่เป็นคนรุ่นหลัง ๆ ท่านได้กรุณาบันทึกให้อีก แม้ในช่วงสุดท้ายของท่าน
ในฉบับนี้ ผมขอถ่ายทอดบางตอนมาฝากพี่น้อง


ถึงลูกจากแม่
ในยอห์น 1:12-13 “แต่บรรดาผู้ที่ต้อนรับพระองค์ ผู้ที่เชื่อในพระนามของพระองค์ พระองค์จะประทานสิทธิให้เป็นบุตรของพระเจ้า ซึ่งในฐานะนั้น เป็นผู้ที่มิได้เกิดจากเลือดเนื้อ หรือกาม หรือมความประสงค์ของมนุษย์ แต่เกิดจากพระเจ้า”
แม่อ่านพระคำข้อนี้ ดีใจจัง อ่านซ้ำอ่านซากหลายครั้ง พิจารณาตัวต่อตัวทีเดียวแหละ เราต่ำต้อย เราเป็นคนบาป เราเป็นนักโทษ มีความผิดติดตัว เราเป็นคนหมดหวัง ช่วยตัวเองไม่ได้ และไม่มีมนุษย์คนไหนช่วยเราได้ เรามืดแปดด้าน เราได้ยินข่าวดี ข่าวประเสริฐเช่นนี้ ดีใจที่สุด
ยินดีต้อนรับพระองค์เป็นพระเจ้า (บ่ายหัว)เข้ามาหาพระองค์ พระองค์รักเรา แสดงความรักต่อเราอย่างอบอุ่นที่สุด เรียกเราว่า “ลูก” ดูแลเรา เป็นห่วงเรา
แม่ซาบซึ้งตั้งแต่บทแรก ทรงส่งพระบุตรองค์เดียวของพระองค์มาตายไถ่บาปให้เรา เพื่อเราจะรอด พระองค์ทรงทราบว่า เราอยู่ในร่างกายขณะยังอยู่ในโลกนี้ จะต้องพบกับความเจ็บไข้ พระองค์ทรงรับความเจ็บป่วยบนพระกาย บนพระกายของพระองค์ นั่นแหละทรงเจ็บป่วยเพื่อเราล่ะ
1 เปโตร 3:24 “พระองค์เองได้ทรงรับ แบกบาปของเราไว้ในพระกายของพระองค์ ที่ต้นไม้นั้น เพื่อว่าเราทั้งหลายจะได้ตายจากบาปได้ และดำเนินชีวิตตามคลองธรรม ด้วยบาดแผลของพระองค์ ท่านทั้งหลายได้รับการรักษาให้หาย” ด้วยการเป็นแม่ มีวิญญาณของ “ใจแม่” เต็มบริบูรณ์ จึงเข้าใจน้ำพระทัยของพระเจ้าที่มีต่อเรา ผู้ที่พระองค์เรียกเราว่า “ลูก” แม่เข้าใจอย่างลึกซึ้ง พระองค์รักเราแบบไหน อย่างไร เพียงใด เข้าใจ! เข้าใจ!
พระบิดาเจ้าข้า ลูกกราบที่พระบาทของพระองค์ และถวายชีวิต ทั้งชีวิต รับใช้พระองค์ตลอดชีวิต ลูกจะไม่เข้า ๆ ออก ๆลูกอยากก๊อปปี้ พระคุณของพระองค์ไว้ในชีวิตของลูก ศึกษาน้ำพระทัยของพระองค์ ไว้ในวิญญาณของลูก เพื่อลูกจะทราบว่า ควรประพฤติอย่างไร และไม่ควรประพฤติอย่างไร

 


แม่อ่านพบใน พระคัมภีร์หลายตอน เน้นเรื่องนี้ เช่นในโรม 12:1 เอเฟซัส 4:7- 5:1 ล้วนแต่สอนให้เรารู้ว่า เราควรประพฤติอย่างไร ให้เป็นที่พอพระทัย
แท้จริง แม่ไม่ต้องการอะไรจากลูก มากกว่าที่ลูกเป็นคนเพียบพร้อมด้วยคุณธรรม แม่ยอมเหน็ดเหนื่อยเพื่อลูกจะมีกิน มีใช้ แม่ไม่ต้องเล่าใหม่ ลูกก็รู้กันทุกคน แท้จริง ประการแรกที่สำคัญ คือ ลูกต้องเชื่อฟัง รักพระเจ้า ถ่อมใจ ฯลฯ เป็นความประสงค์ที่แม่ต้องการ เพราะนั่น เป็นประสงค์ของพระเจ้า ลูกทุกคน แม้แต่แม่เอง ก็ต้องปฏิบัติ ถ้าเราทำดี พระเจ้าได้อะไร ก็เปล่า แต่พระองค์จะได้รับความโสมนัสยินดีในเรา นั่นคือความสุขของพระองค์ เช่นเดียวกับแม่(คนนี้) ไม่ต้องการอะไรจากลูก นอกจากการนำลูกมาเฝ้าจำเพาะพระพักตร์พระเจ้า แม่ชื่นใจแล้ว และมีสุขภาพร่างกายดีด้วย
คนโบราณเขาพูดกันว่า “คนเราไม่มีลูก จะไม่เข้าใจความรักของแม่” แต่ความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรานั้น สูงส่งลึกซึ้ง หลายเท่านัก ทำไมแม่ว่าอย่างนั้น
เพราะพระองค์เป็นพระเจ้า สะอิดสะเอียนความบาป เพราะพระองค์เป็นพระเจ้า ทรงทราบเหตุการณ์ในอนาคตล่วงหน้าน่ากลัวเพียงไร พระองค์วิตกเพื่อเรา เป็นทุกข์ถึงวิบัติที่จะมาถึงเรา (มนุษย์) ความรักปนกับความวิตก มากใหญ่โตขนาดไหน พระองค์ให้พระบุตรสุดที่รัก องค์เดียวของพระองค์มาตายแทนเรา ไถ่บาปให้เรา ถ้าแม่ไม่รู้จักความรักลูก อาจจะฟังเฉย ๆ เพราะไม่เข้าใจความรัก ความรักของแม่ที่มีต่อลูก เหน็ดเหนื่อยเพื่อลูกได้ อดอยากเพื่อลูกได้ ลำบากเพื่อลูกได้ ลูกรักของแม่จ๋า แม่ตายเพื่อลูกได้ พระคัมภีร์ใช้คำว่า “ชะรอย จะมีคนยอมตายเพื่อคนที่รักได้ แต่พระเจ้าทรงส่งพระเยซู พระคริสต์พระบุตรองค์เดียวของพระองค์ มาตายเพื่อเรา มนุษย์ที่แสนจะน่าเกลียด ปรุพรุน เน่าไปด้วยความบาปที่น่าขยะแขยง ไม่เป็นรูปเป็นร่างได้
ในโลกนี้ เราจะหาพระอย่างนี้ ที่ไหนพบ “ข้าแต่พระเจ้าลูกสรรเสริญพระคุณ และความรักของพระองค์ และกราบโมทนาพระคุณของพระองค์ พระบิดาเจ้า ลูกกราบทูล ขอพระเมตตาจากพระองค์โปรดให้ลูกและหลานของลูกทุกคนรอด และรักพระองค์ทุกคน โปรดอย่าเว้นใครสักคนเดียว และขอให้เขาถวายตัว บอกเล่าคนอื่นด้วย ทูลขอในนามพระเยซู อาเมน”


ลูกรักทุกคน แล้วเราผู้ที่รับพระคุณ และรอดโดยพระคุณ อาศัยในพระคุณ อยู่ในโลกท่ามกลางความวิกฤติได้อย่างอบอุ่น ก็โดยพระคุณ เราจะรับพระคุณเป็นการเปล่าหรือ อย่าเลยลูก


1. อยู่ใกล้ๆ พระเจ้า คอยฟังพระบัญชา เพื่อรับใช้

2. เรียนจากพระองค์ ประพฤติตามสิ่งที่ชอบน้ำพระทัย

3. ตรวจค้นดูจิตใจตนเอง ขอให้พระองค์ช่วยชำระ ทุกวัน

4. พระองค์ทรงให้เราช่วยเหลือคนยากจน และลูกกำพร้า

5. ทรงให้เรารักเพื่อนบ้าน เหมือนรักตนเอง

6. ประกาศพระกิตติคุณ ต่อผู้อื่นต่อไป

7. ให้เรารับพระบัญชาด้วยเต็มใจ
















Visitor 127

 อ่านบทความย้อนหลัง