ผู้เลี้ยงกับแกะ
ศ.บ
“ท่านทั้งหลายจงระวังตัวให้ดี และจงรักษาฝูงแกะที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงตั้งท่านไว้ให้เป็นผู้ดูแล และเพื่อจะได้ปกครองคริสตจักรขององค์พระผู้เป็นเจ้า ที่พระองค์ทรงได้มาด้วยพระโลหิตของพระองค์เอง” ( กิจการ 20:28) “ทำความเข้าใจแกะ จงรู้ความทุกข์สุขของฝูงแพะแกะของเจ้าให้ดี” ( สุภาษิต 27:23 )
วันนี้ผมขอพูดเรื่องการอภิบาลศิษย์ พูดอย่างนี้ ก็หมายถึงการพูดกับศิษยาภิบาล หัวหน้าหน่วย หัวหน้ากลุ่มเซลล์ หรือหัวหน้ากลุ่ม ซึ่งเป็นผู้เลี้ยงน่ะซี แต่ความจริง เป็นการพูดเรื่องนี้กับ ลูกแกะ คือสมาชิกด้วย ซี ปีเตอร์ แวคเนอร์ เขียนเรื่อง “ศิลปะของการเป็นผู้ตาม” (The Fine Art of Lay Followership) (Wagner,1984) ท่านกล่าวว่า มีหนังสือเยอะในท้องตลาด เขียนเรื่อง “ศิลปะของการเป็นผู้นำ” แต่น้อยคนเขียนเรื่องของ ผู้ตาม ลูกน้อง หรือสมาชิก พระเยซูตรัสว่า “ผู้เลี้ยงเดินนำหน้า และแกะก็เดินตามท่าน” (ยอห์น 10:4)
สรุป ก็คือ สำคัญด้วยกันทั้งสองฝ่าย คือ ทั้ง ศิษยาภิบาล และ สมาชิก พระเยซู ทรงเปรียบเทียบ คริสตจักร กับ ฝูงแกะ เปรียบ ศิษยาภิบาล(Pastor) กับ “คนเลี้ยงแกะ”(Shepherd) เปรียบ คริสตสมาชิก (Members) กับลูกแกะ (Sheep) ทำไม พระองค์ ไม่เปรียบกับ ฝูงแพะ ฝูงเป็ด หรือฝูงม้า ไม่เพียงแต่ เพราะประเทศอิสราเอลมีคนเลี้ยงแกะเยอะเท่านั้น แต่เพราะ “แกะ” มีลักษณะเฉพาะ ที่เปรียบเทียบได้ กับ ผู้เชื่อ มีผู้ศึกษา เรื่องแกะ นิสัยแกะ ( Sheep behavior) ซึ่ง ผมจะขอหยิบยก มาบรรยาย พร้อมทั้งเปรียบเทียบกับผู้เชื่อเป็นข้อ ๆ ดังนี้
1. ชอบอยู่เป็นฝูง ( Flocking behavior) เป็นที่รู้กันดีว่า แกะเป็นสัตว์เลี้ยงง่าย อยู่ด้วยกันเป็นฝูง เพราะมันมีนิสัยชอบเดินตามกัน แม้เวลามีศัตรูตามไล่ล่ามัน แทนที่มันจะกระเจิดกระเจิง ต่างตัวต่างหนี มันก็หนีด้วยกันไปเป็นฝูง มันรู้ว่าอยู่ด้วยกัน มันจะปลอดภัย ยากที่นักล่าเหยื่ออย่างหมาป่า จะกัดกินแกะตัวใดตัวหนึ่งในฝูง แต่ถ้ามันหลงฝูงออกมาอยู่อย่างโดดเดี่ยวเมื่อไหร่ มันจะถูกล่าได้โดยง่าย นี่เป็นเหตุผลที่พระเจ้าให้คริสเตียนสามัคคีธรรมด้วยกัน อยู่ด้วยกันรักกัน แยกออกมาเมื่อไหร่ มารก็ฉกฉวยเราไปได้โดยง่ายเมื่อนั้น
2. ชอบทำตามกัน ( follow others ) เมื่อตัวหนึ่งขยับ ออกเดิน ตัวอื่นๆจะเดินตาม แม้ว่าการเดินไปนั้นอาจไม่ใช่ทางที่ดี เมื่อเรื่องเล่าว่า ในปี 2006 ที่ตุรกีตะวันออก แกะ 400 ตัว พากันกระโดดลงหน้าผาสูง เพื่อข้ามแม่น้ำที่ลึก 15 เมตร เพราะมีแกะตัวหนึ่ง กระโดดนำ และแกะที่เหลือก็พากันกระโดดตาม นี่เป็นเหตุผลที่เปาโลเตือนพี่น้อง ที่เมืองเอเฟซัส ให้ระวัง เรื่อง “พี่น้องบางคนในหมู่พวกท่านเองกล่าวผันแปรความจริง เพื่อชักชวนพวกสาวกให้หลงตามเขาไป” (กิจการ 20:31) เราต้องยึดความจริงไว้เสมอ ปกติ แกะตัวที่โดดเด่นจะเป็นผู้นำ และแกะที่เหลือจะตาม ซึ่งเป็นสิ่งดี แต่ต้องยึดความจริงแห่งพระวจนะไว้
3. ชอบเห็นเพื่อน ๆ ( social animal need to see other sheep ) แกะเป็นสัตว์สังคม ขณะกินหญ้าในทุ่ง มันต้องได้แลเห็นเพื่อนๆ ในฝูง ว่ากันว่า อย่างน้อย ก็ต้องได้แลเห็นเพื่อนแกะอีก 5 ตัว แต่มันจะกังวลมาก หากมันพบว่ามันกำลังกินหญ้าในทุ่งอยู่เพียงตัวเดียว ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ง่ายกับผู้เลี้ยง เพราะจะให้แกะอยู่ในฝูงเสมอ คริสเตียนที่ไม่ไปโบสถ์ ไม่เข้ากลุ่ม ไม่ข้าเซลล์ จะรู้สึกไม่ปลอดภัย กังวล และมารจะโจมตีง่ายด้วย
4. สายตาสั้น ( short eyes sight ) แกะจะพึ่งพาอาศัยสายตาตัวเอง ตาแกะจะมองได้กว้าง แต่ขยับได้แคบ แกะมีสายตาสั้น มองภาพสามมิติ ไม่ลึก โดยเฉพาะเวลามันเชิดหัวขึ้น ด้วยเหตุนี้ถ้าแกะจะดูอะไรให้ชัด มันจะต้องเข้ามาใกล้ ๆ มันจะเก็บรายละเอียดของสิ่งที่มันดูได้ไม่ดี ถ้ามันมองไปไม่เห็นมันจะลังเลใจที่จะเดินไป นี่เป็นเหตุผลที่ แกะต้องการผู้เลี้ยง เดินนำหน้ามัน เช่นเดียวกับผู้เชื่อ ที่ต้องการผู้นำ
5. การฟังยอดเยี่ยม ( excellent hearing ) เสียงเบา ๆที่มันได้ยิน มันสามารถขยายให้มันได้ยินชัด มันจะตกใจกลัวเสียงดัง เช่น เสียงตะโกน เสียงเห่าของสุนัข เสียงแปลกๆเข้าหูมัน มันจะประสาทเสีย เสียงที่แกะสบายที่สุด คือเสียงสงบ เบาๆ แกะกินหญ้าไม่ได้เวลาสุนัขเห่าหอนเสียงดัง ผู้เชื่อจะได้ยินเสียงพระวิญญาณชัดเจน เมื่อพระองค์กระซิบบอก คริสเตียนมีสมาธิฟังเสียงพระวิญญาณตรัสกับเรา ในชีวิตประจำวัน
6. วิ่งไม่เร็ว ( slow running ) ไม่เหมือนกับกระต่าย กวาง หรือละมั่ง แกะเป็นสัตว์ที่เดินไปช้า ๆ วิ่งไม่เร็ว และแกะ
7. ไม่มีอาวุธ ( curl horn ) แม้เขาของแกะตัวผู้ ก็โค้งงอ ไม่เหมาะที่ จะปะทะกับศัตรู อย่าง วัว ควาย หรือกวาง แต่มันต้อง
8. พึ่งพาผู้เลี้ยง และการอยู่ร่วมกัน พระคัมภีร์ชี้ให้เห็นว่า สมาชิก ต้องการ ศิษยาภิบาล ดูแล นำ ไม่ใช่ใช้ชีวิตตามลำพัง ผู้นำต้องเป็นแบบอย่าง ปกป้องคุ้มครอง ผู้เชื่อปลอดภัย เมื่ออยู่ภายใต้การ ดูแลของผู้เลี้ยงที่ดี
9. แกะฟังเสียงผู้เลี้ยง และเดินตาม มีนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง ไปเที่ยวประเทศตุรกี เห็นผู้เลี้ยงแกะ 3 คน ต่างคนต่างพ่าฝูงแกะของตนเองไปดื่มน้ำที่บ่อ เขาเฝ้าดูแกะ 3 ฝูง เข้าไปปนกันหมด เป็นฝูงเดียวกัน เขาคิดในใจว่า replicas relojes เวลาผู้เลี้ยงจะแยกแกะของตนอกมมาจากฝูงรวมได้อย่างไร สักครู่หนึ่ง เขาได้ยินเสียงผู้เลี้ยงคนหนึ่ง ร้องตะโกน บอกฝูงแกะของตน ซึ่งกำลังกินน้ำปะปนอยู่กับฝูงใหญ่ และเขาเห็นแกะผู้เลี้ยงคนนั้นค่อยๆ พากันทะยอยออกมา ผู้เลี้ยงคนที่สองก็ทำอย่างเดียวกัน เขาตะโกนเรียกฝูงแกะของตน มันก็ทะยอยพากันเดินออกมา ไม่สับสน ผู้เลี้ยงทั้งสามคน สามารถแยกแกะออกจากกันโดยอาศัยเสียงเรียก แกะแยกออกจากฝูง เพราะจำเสียงผู้เลี้ยงของตนได้ดี คริสเตียนต้องจำเสียงพระเยซูได้ และ ผู้เชื่อต้องฟังสัยง ศ บ. ของตน
10. แกะไม่สบาย จำเสียงผู้เลี้ยงไม่ได้ นี่คือข้อสังเกตจากฝูงแกะ ตัวที่เซื่องซึม มีไข้ ไม่สบาย เวลาผู้เลี้ยงเรียกมัน เส้นประสาทมันจะไม่รับรู้เสียงเรียก และจะจำเสียงผู้เลี้ยงไม่ได้ ถ้าคริสเตียนเชื่อฟัง สนิทสนมกับพระเจ้า ไม่ขมขื่น ไม่ขุ่นเคือง ไม่ป่วย เวลาผู้นำสั่งเขาสิ่งใด เขาจะเชื่อฟัง แต่พอเขาคิดลบ ขาดความเชื่อ ผู้เลี้ยงสอน เขาจะไม่ฟัง
11. แกะมีศัตรู แกะเป็นสัตว์ที่เป็นเป้าหมายของ หมาป่า ของสิงโต หรือนักล่าทั้งหลาย เพราะกัดกินแกะง่ายกว่าสัตว์อื่น คริสเตียนมีศัตรู คือ มาร มันจ้องโจมตีลูกแกะฝ่ายวิญญาณ ทันทีที่เรามาเชื่อพระเจ้า มารต้องการเอาเราไปเป็นเหยื่อ “เสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้” เราจึงต้องต่อสู้สงครามฝ่ายวิญญาณ
12. แกะหลงทาง กลับเองไม่ได้ ผมเคยเอาแมว ใส่รถเก๋งไปทิ้ง ห่างบ้านไปเป็นกิโล ปรากฏว่าไม่นานนัก มันกลับมาบ้านผมอีก แกะไม่เป็นเช่นนั้น หลงจากฝูงไปนิดเดียว กลับเข้าฝูงไม่ถูกเสียแล้ว มันกลับมายังฝูง ได้อย่างเดียวเท่านั้น คือ ต้องมีคนไปติดตามหา นี่คือความจริงที่ผู้นำ หัวเซลล์ ศิษยาภิบาลต้องสังวรณ์ ลางคนพูดว่า ให้เขากลับมาเอง เขาไม่กลับมาเพราะเขากลับไม่ถูก ผู้เลี้ยงจำเป็นต้องออกไปติดตามหา นำเขากลับมาหาพระเจ้า
13. แกะชอบหิว ชอบกินอาหาร นิสัยแกะชอบกิน มันจะอยู่กับสนามหญ้า เล็มหญ้าได้ทั้งวัน คริสเตียนชอบพระคำ ธรรมชาติของลูกพระเจ้า ชอบการเรียนพระคัมภีร์ ชอบฟังพระวจนะ ชอบอ่าน ศึกษาคำสอนของพระเจ้า
14. แกะชอบน้ำ ผู้เลี้ยงต้องพาฝูงแกะไป ที่บ่อน้ำ และตักน้ำให้แกะดื่มเป็นช่วงๆ แกะขาดน้ำไมได้ คริสเตียนต้องการการอธิษฐาน เข้าเฝ้าเพื่อความสดชื่นเสมอ
15. แกะเกิดแกะ ลูกแกะไม่ได้เกิดจากผู้เลี้ยง แต่เกิดจากแกะ การนำวิญญาณคนให้มาเชื่อพระเจ้า คริสตสมาชิก คือ ผู้นำวิญญาณที่ดีที่สุด เขาใกล้ชิดกับคนภายนอก
16. พระเยซูทรงเป็นผู้เลี้ยงที่ดี อยากทราบคุณสมบัติ ของผู้อภิบาลศิษย์ที่เป็นโมเดล ต้องดูพระเยซูเป็นแบบ พระองค์รักสาวก ปกป้องสาวก อุทิศตน พร้อมพลีชีพเพื่อสาวก อธิษฐานเผื่อสาวกทุกวัน ทั้งนำแกะนอกคอกกลับมาด้วย ทรงเดินนำหน้าสาวก
17. พระเจ้าฝากให้คริสตจักร “จงรักษาฝูงแกะที่ พระวิญญาณตั้งให้ดูแล” วันนี้เรามีผู้เชื่อจำนวนหนึ่ง พระเจ้าทรงห่วงใยเขา และพระองค์ทรงมอบหมายให้ ผู้เลี้ยงเอาใจเส่ดูแล พระวิญญาณเองทรงเป็นผู้นำแต่งตั้งเราให้ดูแลผู้เชื่อ”
18. บางทีผู้นำต้องมีทั้งนำ และตีสอนด้วยไม้เท้า ดาวิด เป็นคนเลี้ยงแกะมาก่อน ดาวิดใช้ทั้งไม้เท้าและประฏัก ในการนำแกะ แกะที่เชื่อฟัง ไม้เท้า คือสัญญลักษณ์ของการนำ ไม้เรียว เป็นสัญญลักษณ์ของการตีสอน พระเจ้านำแกะที่เชื่อฟัง และตีสอนแกะดื้อ เพื่อไม่ให้เขาถูกลงโทษ อย่างคนภายนอก ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ
|