ไม่กล้า ก็ไม่แกร่ง

 

ศจ. สมเกียรติ กิตติพงศ์

ไม่กล้า ก็ไม่แกร่ง      

เฉลยธรรมบัญญัติ 32:11
           “เหมือนนกอินทรีที่กวนรังของมันกระพือปีกอยู่เหนือลูกโต     กางปีกออกรองรับลูกไว้ให้เกาะอยู่บนปีก”  
                      วิธีการหนึ่งที่พระเจ้า ใช้ปั้นลูกของพระองค์ ก็คือการให้เขาผ่านความยากลำบาก
             พระคัมภีร์ข้อที่เราอ่าน พระองค์ทรงเปรียบเทียบ พระองค์กับนกอินทรี และเราคือลูกนก มีเหตุผลหลายอย่างที่พระองค์เปรียบเช่นนี้
 
                     1.นกอินทรีบินสูง  
 
           นกอินทรีเป็นพญานก มันบินสูง ผมอยู่ต่างจังหวัด นกที่ผมเห็นบินสูงๆก็มี นกกระยาง กา กับเหยี่ยว แต่นกอินทรีบินสูงกว่านั้นอีก พระเจ้าทรงประทับอยู่ในที่สูงส่งเหมือนนกอินทรี ลูกพระเจ้าต้องเป็นคนใจสูงด้วย เปาโลกกล่าวว่า “ถ้าท่านรับการชุบให้เป็นขึ้นมากับพระคริสต์แล้ว ก็จงแสวงหาสิ่งที่อยู่เบื้องบน ในที่ซึ่งพระคริสต์สถิตอยู่ คือประทับข้างขวาของพระเจ้า จงเอาใจใส่สิ่งที่อยู่เบื้องบน ไม่ใช่สิ่งซึ่งอยู่ที่แผ่นดินโลก” (โคโลสี 3:1-2) “โลก” ในที่นี้คงไม่ใช่ อะไรที่เราจำเป็นต้องกินต้องใช้ประจำวัน แต่หมายถึง “โลกียะ” ที่ดึงดูดให้ “เนื้อหนัง” เราติดกับ   หมกมุ่นจนใจเราเมินพระวจนะ เมินความสัมพันธ์กับพระเจ้า
 
                      2.นกอินทรีตาดี 
          จึงมองได้ไกล เห็นอะไรๆแต่ไกล พระเนตรของพระเจ้ามองไกล พระองค์จึงทราบการณ์ของโลกล่วงหน้า เราเป็นลูกนกอินทรีต้องเป็นคนมีนิมิต ฝันถึงอนาคต นี่ไม่ใช่ความทะเยอทะยาน แต่เป็นการมองเหตุการณ์ โดยสายพระเนตร   โดยสายพันธุ์นกอินทรีไง หากเราอ่านพระคัมภีร์ เราจะไม่ตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ของโลก เช่น เศรษฐกิจถอย น้ำมันขาด โรคมื้อเท้าปากระบาด สึนามิ แผ่นดินไหว สงคราม และคำสอนเท็จ ที่กำลังทะลักมา 
 
 
 
      3.  นกอินทรีแข็งแรง  
          ฝรั่งนี่เวลาเลือก โลโก ให้ทีม หรือแม้แต่ประเทศชาติ มักเลือกสัตว์ที่แข็งแรง เช่นหมี สิงโต และนกอินทรี ปีของมันต้องต้านลม และการโฉบเฉี่ยวของมันก็ต้องฉับไว เหมือนรถยนต์ ถ้าจะขับไปต่างจังหวัด รถยนต์ 1200 ซีซี ที่ผมขับมาหลายปีนี่ ขับไปชะอำ ก็ต้องค่อยคลานไป เวลาจะแซงคันอื่น ก็ต้องตั้งท่าให้ดี เพราะขับขึ้นไปแค่ครึ่งคัน แซงไม่พ้น หมดแรงเสียก่อน อันตรายเชียว ถ้าจะขับขึ้นเขาชัน รถยนต์ 1500 ซีซี ของผมวันนี้ ก็ไม่ค่อยไหวเหมือนกัน ต้องใช้รถ 2000 - 3000 ซีซี โฟร์วีลไดรท์ เสือภูเขา ถึงจะดี พระเจ้าทรงฤทธานุภาพสูงสุด ลูกพระเจ้า ก็ควรมีพลังเหนือบาป เหนือโลก และเหนือมาร มีฤทธิ์อย่างที่พเจ้าอนุญาตให้ใช้ เช่น วางมือรักษาโรค ขับผี ไม่ใช่ออกฤทธิ์ หรือแผลงฤทธิ์ตามใจตน 
 
      4. นกอินทรี สร้างรังให้ลูกในที่สูง 
         มันเลือก หน้าผาสูง ไม่มีอะไรมารบกวนได้โดยง่าย พระเจ้าเลือกที่อยู่ให้เราในที่สูง ให้เรารู้จักอธิษฐาน อ่านพระวจนะ สามัคคีธรรม ฟังพระสุรเสียง นกอินทรีไม่ชอบอยู่กับพื้นดิน นี่ไม่ใช่หัวสูงนะครับ แต่ชอบสิ่งที่เป็นฝ่ายวิญญาณ ใฝ่ดี รักคุณธรรม ความยุติธรรม รังเกียจอบายมุข    
         มีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่ง มีไข่นกอินทรีฟองหนึ่ง ไปปนอยู่กับ ไข่ไก่ 10 ฟองในเล้า แม่ไก่รู้ ก็ฟักไข่ ออกลูกมาทั้งหมด 11 ตัว มันเลี้ยงลูกของมันเหมือนกันหมด คือพาลูกไปแคะคุ้ยดิน หาเศษอาหารกินตามพื้น ลูกไก่ 10 ตัว ทำได้ง่าย แต่ลูกนกอินทรีไม่ชอบ ทำไม่ได้ แม่ไกไม่เข้าใจ พาไปดื่มน้ำในราง ลูกไก่ 10 ตัวทำได้ดี แต่ลูกนกอินทรีกินน้ำแบบนี้ไม่เป็น แม่ไก่ไม่เข้าใจ มันคิดว่าลูกของมัน ตัวนี้คงป่วย มันพาลูกทั้ง 11 ตัวไปฝึกบิน ลูกไก่ 10 ตัวบินสูงไม่เกินฟุต แต่ลูกนกอินทรีทะยานสู่ฟ้า เล่นเอาแม่ไก่ และลูกไก่งงตึบ ถ้าท่านเป็นลูกนกอินทรี ท่านต้องมีสัญชาติญาณของนกอินทรี   เอาท่านไปนั่งในวงเหล้า วงไพ่ บ่อนไฮโล ไนต์คลับ คาเฟ่ นกอินทรีแบบไหนกัน ก๊งเก่งเกิน ดิ้นด้านซ์ดวด 
 
 

 

 เหมือนลูกไก่เก็บเศษกิน นกอินทรีตัวจริงต้องทะยานสู่ฟ้าครับ เปาโลบอกว่า “ข้าพเจ้าใคร่ให้ท่านเชี่ยวชาญในการดี และเป็นคนทึ่มในการชั่ว” ( โรม 16:19) แต่ก่อนเราเคยเป็นลูกไก่ วันนี้เราต้องมีสายพันธุ์ใหม่ บังเกิดใหม่ เป็นลูกนกอินทรี ลูกของพระเจ้า รังของเราอยู่ที่สูงครับ ไม่ใช่บนดิน
 
       5. นกอินทรี ฝึกลูกให้บิน 
         มันไม่อยากให้ลูกของมัน นั่งแช่อยู่ในรังนกสูงอันปลอดภัย ตลอดกาล ชั่วนิจนิรันดร พอมันเห็นว่าลูกมีปีกกล้าขาแข็งขนาดหนึ่ง มันก็จะบอกลูกว่า 
          “ทีนี้ลูกต้องหัดบินแล้วนะ” ลูกของมันก็คงตอบว่า
          “โอ เค ครับ พ่อ”   แล้วมันก็ออกคำสั่ง 
          “ถ้าพร้อมแล้วก็ถลาออกมาจากรังเลย เอ้า! นึง สอง ซัม” 
           ลูกนกอินทรียังกล้าๆ กลัวๆ มองลงไปข้างล่าง รังอยู่สูงเหนือพื้นยังกะมองออกมาทางหน้าต่างสายการบินไทย ตอนอยู่เหนือกรุงเทพฯ มันคงขี้ขลาดเหมือนตอนผมฝึกว่ายน้ำที่แม่น้ำตาปี ไม่ออกไปที่ลึกสักที พ่อนกร้องบอกอีกครั้ง
 
  
 
           “เอ้า กระโดด ออกมา นึง สอง ซัม” 
          เหมือนเดิมครับ ลูกนกยังอยู่ยึดรังไว้เหนียวแน่น   ไม่พูดพล่ามทำเพลงอีกต่อไป พ่อนกก็กระพือปีกอันแข็งแกร่ง คว่ำรังของมัน อับไซด์ดาวน์ แบบเทกระจาดเลย 
    “โอ๊ะ โอ๊ย ..”
       ลูกนกถลาหลุดออกมาจากรัง เหมือนนักบินพลร่ม ถูกถีบลงมาจากเครื่องบิน และร่มยังไม่กาง ยังไงยังงั้น เป็นครั้งแรกในชีวิต ลูกนกพยายามใช้ปีกน้อยๆของตน
  
กางออก ประคองตัว มันทำได้สัก 50 % มั้ง ตัวของมันร่วงลงต่ำลงเรื่อยๆ ไม่มีเวลาโทษพ่อตัวเอง มันตกใจสุดขีด   ทันใดนั้นมันก็สังเกตว่า ปีกพ่อของมันช้อนมันขึ้นมา อย่างน่าใจหายใจคว่ำ ลูกนกครวญคราง
            “โอ๊ย นึกว่าพินาศแล้ว ซิเรา” แล้วพ่อนกก็พามันขึ้นไปอยู่ในรังใหม่ มันนึกว่าเกมนี้จบไปแล้ว แต่ไม่ใช่เลย พ่อนกอินทรีกวนรังอีกเป็นครั้งที่สอง ครั้งที่สาม ครั้งที่สี่ หลายครั้งเข้า ลูกนกเริ่มสังเกตว่า มันเริ่มประคองตัวเอง บนเวหาสูงได้อย่างอัศจรรย์ โดยไม่ต้องพึ่งพ่อนกอีก 
       
          พี่น้องที่รัก พระเจ้าไม่ได้ฝึกเราแบบนี้หรือ   อย่ากลัวเวหา อย่าท้อเมื่อพระเจ้าตีสอน ผู้กวนรังไม่ใช่ลม ไม่ใช่ธรรมชาติ ไม่ใช่สังคม ไม่ใช่มาร แต่เป็นพ่อที่รักเราต่างหาก ไม่ถูกปั้นก็ไม่เป็น ไม่เสี่ยงก็ไม่สวย ไม่กล้าก็ไม่แกร่ง ไม่ก้าวก็ไม่เก่ง เหมือนพวกสาวกนั่งในเรือ ก็แค่นั้น แต่เปโตรกระโดดออกจากเรือ เดินบนน้ำทะเล ไปหาพระเยซูหนึ่งก้าว สองก้าว สามก้าว   เปโตรเดินไปไม่ทันถึงพระเยซู   ครั้นเห็นคลื่นลมก็ตกใจ จึงจมลง แต่ทันใดนั้น พระเยซูก็ฉุดเปโตรขึ้นอย่างปลอดภัย 
        
            การยอมให้เราผ่านความยากลำยาก เรื่องการเงิน เรื่องการข่มเหง เรื่องการถูกใส่ร้าย เรื่องคนเข้าใจผิด เรื่องความยากลำบากในการงาน เรื่องการขาดแคลน เป็นวิธีของพระเจ้า ที่สำคัญคือพระองค์ทรงทราบว่า แค่ไหน ที่เราทนได้ ขนาดไหนที่เรารับได้ ส่วนเราเอง ต้อง
 

 





Visitor 615

 อ่านบทความย้อนหลัง