การวางใจพระเจ้า
คำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม 2007
อ.สุชาติ ชัชวาลย์ปรีชา
(สดุดี 125: 1-5)
บรรดาผู้ที่วางใจในพระเจ้าก็เหมือนภูเขาศิโยน ซึ่งไม่หวั่นไหว แต่ดำรงอยู่เป็นนิตย์ ภูเขาอยู่รอบเยรูซาเล็มฉันใด พระเจ้าทรงอยู่รอบประชากรของพระองค์ ตั้งแต่เวลานี้สืบต่อไปเป็นนิตย์ฉันนั้น เพราะคทาของความอธรรมจะไม่พักอยู่ เหนือแผ่นดินที่ตกเป็นส่วนของคนชอบธรรม เกรงว่าคนชอบธรรมจะยื่นมือออกกระทำความผิด ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงประกอบการดีต่อผู้ทำดี และต่อผู้เที่ยงธรรมในจิตใจของเขา แต่บรรดาผู้ที่หันเข้าหาทางคดของเขา พระเจ้าจะทรงพาเขาไปพร้อมกับคนทำชั่ว ขอสันติภาพจงมีอยู่ในอิสราเอล


เป็นบทเพลงแห่ขึ้นของชาวยิว ที่ร้องกันเมื่อเดินทางไปงานฉลอง
ผู้ที่วางใจในพระเจ้าเหมือนภูเขาศิโยน คอรี่ เทน บูม กล่าวว่า“ที่มีความมั่นคง และปลอดภัยที่สุด คือที่น้ำพระทัยของพระเจ้า” ความมั่นคงที่สุด มิได้เป็นที่ที่มีความมั่งคั่ง เพลงที่เราร้องเรายืนบนศิลาหรือทรายโคลน บ่อยครั้งเราเดินไปโดยความรู้สึกไม่มั่นคง ถ้าเรารับใช้แต่ไม่ใช่น้ำพระทัยในที่เราอยู่ก็ไม่ปลอดภัย แม้ผมรู้ว่าพระเจ้าให้ผมเป็นศ.บ. แต่ผมรู้ว่าพระเจ้าให้ผมอยู่ที่นี่ และผมรู้สึกปลอดภัย อย่าหมดหวัง อย่าสับสน มีที่หนึ่งที่มั่นคงปลอดภัย พระธรรมตอนนี้มีความจริง 5 ประการด้วยกัน

1.เส้นทางของเรามั่นคง ( 1) ชีวิตเก่าของเราไม่มั่นคงปลอดภัย ชีวิตในพระเจ้าพระคัมภีร์เปรียบเหมือนภูเขา ,ยู่กับพระเจ้าเป็นนิตย์ มั่นคงกว่าป้อมปราการ,กว่าบ้านที่เราอยู่,ชีวิตรับใช้มั่นคงกว่างานราชการเพราะเรามีพระเจ้าคุ้มครอง เพื่อนพบผมถามว่า “มีประกันชีวิตไหม?” ผมบอกว่า “ไม่มี” แต่มีพระเจ้าครับ อ พระเจ้าทรงห้อมล้อมเราไว้ ผมเคยมั่นใจในตัวเองมาก วันหนึ่งขับรถชน พระเจ้าสอนผมให้วางใจพระเจ้า ไม่ใช่ตนเอง ชีวิตมั่นคงที่สุดคือต้องมีพระเจ้า
2.ความมั่นคงตั้งบนความเชื่อ เข้มแข็ง (1) ไม่หวั่นไหว ความเชื่อเราต้องเข้มแข็ง วัดกับตนเองเมื่อปีกลาย เราต้องสร้างความเชื่อ ดูแบบคนที่เชื่อแข็งแรง บางครั้งเราต้องเลียนแบบรุ่นพี่ที่มีความเชื่อ ฮีบรู 12: 1-2 หมายเอาพระเยซูเป็นผู้บุกเบิกความเชื่อ มีปัญหาเรื่องลูกผมโทรศัพท์ถามใคร? อย่าไปฟัง “เสียงของคนที่ขาดความเชื่อ” บางครั้งเราฟังเสียงความรู้สึกมากไป “แย่แล้ว”
3.ผู้ชอบธรรมจะรับการปกป้องให้พ้นภัย (3-4) เมื่อเราไม่เที่ยวผู้หญิง ไม่ติดยา เราไม่ต้องกลัวเอดส์ แม้ภัยล้อมรอบเรา แต่พระเจ้าจะดูแล ถ้ามีเหตุร้ายแสดงว่าพระเจ้ายอมให้เกิด เหมือนโยบ เราต้องเข้าใจว่าพระเจ้าต้องการสอนอะไรเรา พระเจ้ายอมให้มารแตะต้องกายแต่เอาชีวิตไม่ได้ ถ้าเราไม่ออกจากพระหัตถ์ เราจะปลอดภัยเสมอ นอกร่มพระคุณอันตราย ขาดการปกป้องดูแล
4.พระสัญญาของพระเจ้ามั่นคงถาวร (2) “ตั้งแต่เวลานี้สืบต่อไปเป็นนิตย์” ตอนเรียนหนังสือผมอยากเป็นตำรวจ ไม่เคยคิดรับใช้พระเจ้า คิดอยากมีบ้าน ถ้ารับใช้พระเจ้า เงินเดือนพันกว่า รู้ดีพระเจ้าเรียก คุณแม่เป็นคริสเตียน คุณพ่อออกจากงานขับรถแท็กซี่ ผมจำคำ “สิ่งที่ตาไม่เห็น หูไม่ได้ยิน ทรงเตรียมไว้สำหรับผู้ที่รักพระองค์” ผมไปเรียนพระคัมภีร์ 4 ปี รับใช้พระเจ้า และเริ่มด้วยซื้อบ้านราคาแสนกว่า ต่อมาขายบ้าน และซื้อบ้านใหม่ราคา 2 ล้าน ครอบครัวที่เคยต่อต้านกับรักผมเหมือนเดิม พระเจ้าไม่เป็นหนี้ใคร
5.ชีวิตในพระเจ้าไม่ต้อวิตกกังวล (5)
“ขอสันติภาพอยู่ท่ามกลางอิสราเอล” ไม่ต้องเกร็ง ไม่ต้องกังวล มุ่งหน้าต่อไปด้วยการพึ่งพระเจ้า ในพระธรรมมัทธิว กล่าวว่า อย่ากังวลถึงวันพรุ่งนี้ เวลาบ้านเครียด ลูกชายเล่นเปียร์โนให้เราฟัง พระองค์นำสันติภาพมาให้เรา
clickเพื่อฟังคำเทศน์ที่นี่
Visitor 331

 อ่านบทความย้อนหลัง