พิสูจน์รัก
คำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2007
ศ.จ.สมเกียรติ กิตติพงศ์

นางรูธ 1:15-18; 3:5; 3:9
แต่รูธตอบว่า "ขอแม่อย่าวิงวอนให้ฉันจากแม่ หรือเลิกติดตามแม่ไปเลย เพราะแม่จะไปไหน ฉันจะไปด้วย และแม่จะอาศัยอยู่ที่ไหน ฉันก็จะอยู่ที่นั่นด้วย ญาติของแม่จะเป็นญาติของฉัน และพระเจ้าของแม่ ก็จะเป็นพระเจ้าของฉัน แม่ตายที่ไหน ฉันจะตายที่นั่น และจะขอให้ฝังฉันไว้ที่นั่นด้วย ถ้ามีอะไรมาพรากฉันจากแม่ นอกจากความตาย ก็ขอพระเจ้าทรงลงโทษฉัน และให้หนักยิ่ง" เมื่อนาโอมีเห็นว่า รูธตั้งใจจะไปด้วยจริงๆ แล้ว นางก็ไม่พูดเธออะไรอีก…… นางตอบว่า "แม่ว่าอย่างไร ฉันจะกระทำตามทุกอย่าง"…….
โบอัสจึงถามว่า "เจ้าเป็นใคร" นางตอบว่า "ดิฉัน คือ รูธคนใช้ของท่านค่ะ ขอให้ท่านกางชายเสื้อของท่านห่มคนใช้ของท่านด้วย เพราะท่านเป็นญาติสนิทถัดมา"
ในเทศกาลแห่งความรัก ผมจะขอแนะนำ ความรักแท้ระหว่างรูธ ลูกสะใภ้กับ นางนาโอมีซึ่งเป็นแม่ผัว ความรักของเธอเทียบได้กับความรักของเราที่เป็นผู้เชื่อกับพระคริสต์ และสามารถนำไปพิสูจน์ความรักระหว่างสามีภรรยาก็ได้
รักแท้เป็นอย่างไร เราดูได้จากเธอ

1. พร้อมติดตามไป (นางรูธ 1:16)
หลังจากนางนาโอมีสูญเสียสามีในดินแดนโมอับ ลูกชายของเธอ 2คนคือ คิลิโอน และมาโลน ก็ได้หญิงชาวโมอับเป็นภรรยา สะใภ้คนโตคือโอรปา ส่วนสะใภ้คนน้องคือนางรูธ ดูเธอจะชื่นใจขึ้นมาบ้าง แต่ไม่นานนัก นางก็สูญเสียลูกชายทั้งสองคน สะใภ้ทั้งสองก็กลายเป็นแม่หม้าย นาโอมีขมขื่นใจเธอตัดสินใจกลับเบธเลเฮ็ม เธอบอให้รูธและโอรปา สะใภ้ทั้งสองกลับไปหาสามีใหม่ เธอไม่มีลูกชายให้แต่งงานอีก ในที่สุดโอรปาก็กลับไป แต่รูธไม่ยอมทิ้งแม่ผัว เธอเต็มใจติดตามนางนาโอมีไปด้วย “แม่ไปที่ไหน ฉันจะไปที่นั่น แม่อยู่ที่ไหน ฉันจะอยู่ที่นั่น” ผู้เชื่อที่ติดตามพระเจ้า ต้องมีท่าทีเช่นนี้ พร้อมติดตามพระเจ้าต่อไป เงื่อนไขการเป็นคริสเตียน มิได้มีเพียงการกลับใจใหม่ เชื่อพระเจ้า แต่การก้าวต่อไปเป็นเงื่อนไขสำคัญ ทุกวันนี้มีคนไม่น้อยที่กลับใจรับเชื่อแล้วภายหลังก็หายหน้าไป โดยยังหวังใจว่าตนรับความรอด เป็นความเข้าใจผิด เปาโลบอกชาวโคโลสีว่า “แต่ท่านต้องตั้งมั่นอยู่ในข่าวประเสริฐ และไม่โยกย้ายไปจากความจริง”
2.ไม่เห็นแก่ตัว ( นางรูธ 1:16)
การตัดสินใจของนางรูธ เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้คิดเห็นแก่ตนเอง เพราะถ้าเธอคิดถึงตนเอง เธอยังสาวอยู่ เธอต้องคิดเรื่องการหาสามีใหม่ คิดถึงอนาคตตามใจตน เธอคิดเห็นแก่นางนาโอมีมากกว่าตนเอง พระเยซูตรัสว่า “ผู้ใดใคร่ตามเรามา ให้ผู้นั้นชนะตนเอง แบกกางเขนของตนตามเรามา... ผู้ใดรัก บิดามารดา บุตร ภรรยา พี่น้องชายหญิง บ้านเรือน ไร่นามากกว่ารักเรา คนนั้นก็ไม่สมควรกับแผ่นดินของเรา” อีกครั้งหนึ่งพระเยซูตรัสว่า “จงรักพระเจ้าสุดจิตสุดใจสิ้นสุดกำลังความคิดของเรา จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” เราสมควรรักพระองค์ยิ่งกว่าตนเพราะพระเจ้าทรงเป็นทุกสิ่งของเรา
3. เต็มใจรับครอบครัวด้วย
นางรูธเป็นคนโมอับ เป็นลูกสะใภ้ของนางโอมีซึ่งเป็นชาวยิว แต่เธอรักแม่ผัว เธอยินดียิ่งกว่ามอบตัวของเธอติดตามแม่ผัวซึ่งเป็นยิว แต่เธอกล่าวว่า “ญาติของแม่จะเป็นญาติของฉัน” ยอห์นกล่าวไว้ในพระธรรม 1ยอห์น 5: 1 ว่า “ผู้ใดเชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นพระคริสต์ ผู้นั้นก็เกิดจากพระเจ้า และผู้ใดที่รักพระองค์ผู้ให้กำเนิด ผู้นั้นก็รักคนที่เกิดจากพระองค์ด้วย” เมื่อเราติดตามพระคริสต์ ผู้เชื่อทั้งหลายก็เป็นครอบครัวของเรา เราเองก็เป็นส่วนของครอบครัวของพระองค์ คือคริสตจักร
4. ซื่อสัตย์ตราบเท่าวันตาย (นางรูธ 1:16)
“แม่ตายที่ไหน ฉันจะตายที่นั่นด้วย” เราต้องพร้อมตายกับพระเยซู แปลว่าเราจะดำเนินชีวิตกับพระองค์เสมอไป ไม่มีวันทอดทิ้งพระองค์ไม่ว่ามันจะนานแค่ไหน ชายหนุ่มที่แต่งงานกับหญิงสาว ในวันสมรสจะมีการปฏิญาณต่อพระพักตร์พระเจ้า “จนกว่าความตายจะแยกท่านทั้งสองออกจากกัน” พระเจ้าปรารถนาความจงรักภักดีในการติดตามพระองค์เหมือนชีวิตสมรส คนไทยเราอวยพรคู่สมรสว่า “ให้ทั้งสองถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร” เราต้องดำเนินชีวิตกับพระองค์จนจากไปสวรรค์ครับ
5. เต็มใจปรนนิบัติ (นางรูธ 2:2)
นางรูธไปเก็บข้าวตกที่ทุ่งนา ที่ชาวนาเขาเกี่ยวแล้วมีเศษตกอยู่ตามทางมาเลี้ยงแม่ผัวตลอดฤดูเกี่ยว ความรักเต็มใจปรนนิบัติ ถ้าเรารักพระเจ้าเราต้องปรนนิบัติพระองค์ การรับใช้พระเจ้าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตคริสเตียน ผมไม่เคยเห็นคริสเตียนที่ไม่รับใช้พระเจ้าแข็งแรง นึกถึงเรื่องสาธุ สุนทร ซิงผู้รับใช้ชาวเนปาล เมื่อเขาเดินทางฝ่าพายุไปยังหมู่บ้านที่อยู่ข้างหน้า ในพายุหิมะหฤโหด เขาตัดสินใจช่วยคนที่นอนจมกองหิมะ ขณะที่คนข้างหน้าเขาไม่ยอมช่วยเหลือและพยายามเอาตัวรอด ผลสุดท้าย ตัวเขาที่ช่วยคนอื่นรอดตาย ในขณะที่คนข้างหน้าเขาไปได้ไม่ไกลนักก็ต้องล้มในหิมะ ความอบอุ่นจากร่างกายของคนเจ็บกลับช่วยให้เขารอดตาย คนที่ช่วยคนอื่นก็ช่วยตนเองด้วย
6. เชื่อฟังทุกอย่าง (นางรูธ 3:5)
ถึงยามนวดข้าวสาลี นางรูธสมัครจะไปช่วยนวดข้าวที่นาของโบอัส ญาติของเอบีเมเลค ญาติสนิทของสามีนาโอมี นางติวลูกสะใภ้ให้เธอกล้าเข้าไปเพื่อขอการปกป้องคุ้มครอง โดยขอให้ให้เขาซื้อที่นาของเอบีเมเลค ตามกฎหมาย เขาจะได้นางรูธสะใภ้หม้ายมาเป็นภรรยาเพื่อสืบสกุลผู้ตายต่อไปด้วย นางรูธตอบเธอว่า “แม่ว่าอย่างไร ฉันจะกระทำตามทุกอย่าง” พระเยซูทรงปรารถนาให้ให้เราที่เป็นสาวกเรียนและเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์ทุกอย่าง “จงสอนสิ่งสารพัดที่เราสั่งพวกเจ้าไว้” “ผู้ทีรักเรา ประพฤติตามบัญญัติของเรา
มีพรมากมายสำหรับนางรูธ ชื่อเสียงเธอดี ผู้คนยอมรับเธอ ความรักของเธอกับแม่ผัวทำให้ครอบครัวเข้มแข็ง เธอได้รับความโปรดปรานและมีความสุข แล้วในที่สุดเธอก็ได้เป็นภรรยาของโบอัส เธอได้บุตรชาย คือโอเบด ซึ่งเป็นบิดาของเจสซี ซึ่งเป็นบิดาของดาวิด ต้นตระกูลของพระเยซู เธอมั่งคั่งด้านวัตถุเสียด้วย ครับพระพรของการติดตามพระเยซู ได้พรอย่างนางรูธทั้งหมด ท่านจะเป็นต้นตระกูลของผู้คนจำนวนมาก
ขอพระเจ้าอวยพรครับ

Click เพื่อฟังคำเทศนาที่นี่
Visitor 291

 อ่านบทความย้อนหลัง