คำเทศน์วันอาทิตย์ที่ 24 ธันวาคม 2006 ศจ.สมเกียรติ กิตติพงศ์ ผู้ที่พระเจ้าโปรดในวันคริสตสมภพ

เมื่อตอนที่พระเยซูประสูติที่หมู่บ้านเบ็ธเลเฮม มีกลุ่มคนอยู่ไม่กี่คนที่ทราบเรื่องพระเยซูทรงบังเกิด คนที่ทราบเรื่องนี้ ต้องนับว่า เป็นบุคคลที่พระเจ้าทรงโปรดปรานเขาจริงๆ เขามีบุคลิกลักษณะอย่างไร เป็นเรื่องที่น่าสนใจยิ่ง

1. บุคคลแรกคือนางมารีย์ มารดาของพระเยซู

ก่อนที่เธอจะตั้งครรภ์ ทูตสวรรค์ได้มาปรากฏแก่เธอ บอกเธอว่าเธอจะตั้งครรภ์ เธอประหลาดใจว่าเรื่องนี้จะเกิดกับเธอได้อย่างไรเพราะเธอไม่เคยหลับนอนกับชายใด แต่ทูตสวรรค์
บอกเธอว่าเธอเป็นที่โปรดปรานของพระเป็นเจ้า เธอจะตั้งครรภ์โดยเดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์
บุตรคนนี้จะเป็นผู้ชาย ให้ตั้งนามท่านว่า “เยซู” เมื่อเธอได้ฟังเรื่องทั้งหมด สิ่งที่เธอตอบทูตสวรรค์คือ "ดูเถิด ข้าพเจ้าเป็นทาสีของพระเป็นเจ้า ข้าพเจ้าพร้อมที่จะเป็นไปตามคำของท่าน" (ลูกา 1:38)
ผมติดใจคำตอบของเธอมาก ผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน คือผู้ที่พร้อมยอมฟังพระเจ้าทุกอย่าง คนที่ยอมฟังอย่างทาส คือคนที่ไม่ดื้อรั้น หัวแข็ง เมื่อพระเจ้าสั่งอะไรก็พร้อมทำตาม ว่าง่าย
2. บุคคลต่อมาคือโยเซฟ คู่หมั้นของนางมารีย์

พระคัมภีร์บอกเราว่าโยเซฟมีธัมมะ ครั้งแรกโยเซฟเข้าใจผิดคิดว่า คู่หมั้นของตนอาจไปผิดอะไรที่ไหนจึงมีครรภ์ แต่โยเซฟเป็นคนดี ไม่คิดแพร่งรายเรื่องนี้ คิดจะถอนหมั้นลับๆ ต่อมาเมื่อทราบจากทูตสวรรค์เรื่องการมีครรภ์ของนางมารีย์ว่ามาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ โยเซฟก็รับนางมารีย์มาเป็นภรรยาโดยไม่สมสู่กับเธอจนเธอประสูติพระกุมารเยซู
บุคคลที่พระเจ้าโปรดปรานเป็นคนที่มีธัมมะ พระเจ้าโปรดคนที่เกลียดชังความบาป และมีใจเชื่อพระเจ้า คนที่มีธัมมะเป็นคนอยู่ในศีลในธรรม รับผิดชอบ ไม่เห็นแก่ตัว แน่นอนย่อมเป็นคนที่รักษาพระบัญญัติของพระเจ้า

3.บุคคลกลุ่มที่ 3 คือคนเลี้ยงแกะ

คืนที่พระเยซูประสูติที่หมู่บ้านเบ็ธเลเฮ็ม ทูตสวรรค์ได้บอกข่าวดีนี้แก่คนเลี้ยงแกะที่ทุ่งนา มีแสงสว่างส่องล้อมรอบพวกเขา เมื่อพวกเขาทราบข่าวนี้แล้ว พวกเขาก็กล่าวว่า"ให้เราไปยังเมืองเบธเลเฮม ดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ซึ่งพระเป็นเจ้าได้ทรงแจ้งแก่เรา"
คนเลี้ยงแกะชุดนี้เมื่อทราบข่าวเรื่องนี้แล้ว ไม่ได้อยู่เฉย แต่ไปดูให้เห็นจริงให้พบพระกุมารจริงกับสายตาของตนเอง ให้ตนได้พบพระเยซูด้วยตนเอง ครั้นเห็นจริงเรื่องนี้แล้วพวกเขา จึงเล่าเรื่องซึ่งเขาได้ยินถึงพระกุมารนั้น คนทั้งปวงที่ได้ยินก็ประหลาดใจ ด้วยเนื้อความที่คนเลี้ยงแกะได้บอกแก่เขา คนที่พระเจ้าโปรดปราน ต้องเป็นคนที่เอาจริง ต้องการพบพระเจ้าจริงๆ ครั้นมีประสบการณ์แล้วก็มิได้เก็บอมพะงำไว้คนเดียว แต่บอกเล่าให้เพื่อนฝูงมิตรสหายทราบข่าวดีนี้ คือต้องสือสาร ยิ่งกว่านั้นอีกคนเลี้ยงแกะก็สรรเสริญพระเจ้าด้วย
4.บุคคลกลุ่มสุดท้าย คือนักปราชญ์
ในช่วงเวลาที่มารีย์และโยเซฟยังพักอยู่ที่เบ็ธเลเฮม มีดาวประหลาดดวงหนึ่งปรากฏขึ้น พวกนักปราชญ์กลุ่มนี้พักอยู่ทางทิศตะวันออก จึงทราบว่ามีกษัตริย์บังเกิดแน่ๆ จึงได้เดินทางตามดาวดวงนี้มา เมื่อพบพระกุมารแล้วก็ก้มกราบลงด้วยใจภักดี ถวายเครื่องบรรณาการทีพวกเขาเตรียมมา คือ ทอง กำยาน และมดยอบ
คนที่พระเจ้าโปรดปรานคือคนที่แสวงหา เมื่อพบพระเจ้าแล้ว ด้วยใจภักดีก็มอบถวายสิ่งดีที่ตนมีให้พระเจ้า คนแสวงหาจะพบพระเจ้า และคนที่ซื่อสัตย์ ก็ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า พระเจ้าไม่โปรดคนที่ไม่ตั้งใจจริงในการแสวงหาพระองค์ คนที่หยิ่งยะโส หรือไม่คงเส้นคงวาในการติดตามพระเจ้า นักปราชญ์เหล่านี้ ยอมสวามิภักดิ์ ทั้งๆที่พระกุมารยังแบอยู่เลย ไม่ใช่เพียงที่ตาแลเห็นแต่ ตาสายวิญญาณทราบว่าพระกุมารคือใคร

พระเจ้ายังเสาะหาคนที่พระองค์ทรงโปรด
ไม่ว่าเราจะเป็นเศรษฐีหรือยาจก ไม่ว่าเราจะเป็นผู้คงแก่เรียน หรือคนที่มีความรู้น้อย สิ่งเหล่านี้ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือ เราพร้อมยอมฟังอย่างนางมารีย์หรือไม่ เราถือว่าการอยู่ในศีลธรรมอันดีงามดีอย่างโยเซฟดีหรือไม่ เมื่อทราบเรื่องราวของพระคริสต์ เราไดมุ่งมั่นติดตามหาอย่างคนเลี้ยงแกะชุดนั้นหรือไม่ เมื่อเรามีประสบการณ์ส่วนตัวแล้วเราสื่อสารบอกเล่าให้คนอื่นๆทราบต่อไปหรือไม่ เมื่อเราพบพระเจ้าเราคิดจะนำอะไรมาถวายพระองค์อย่างนักปราชญ์หรือไม่ ใจเราภักดีต่อพระองค์จนพร้อมที่จะคุกกราบลงหรือไม่

ขอให้เราใช้ชีวิตอย่างที่พระเจ้าโปรดปรานในเทศกาลคริสตสมภพ และปีใหม่ 2007น่ะครับ
If you wanna buy Swiss top super clone watches UK, you cannot miss this website.

AAA cheap replica watches UK for sale are worth having. You can place an order online conveniently and efficiently.
Click เพื่อฟังคำเทศน์ที่นี่