ภาระหนัก แอกเบา

คำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม 2009
ศจ.สมเกียรติ กิตติพงศ์

มัทธิว 11:28-30


“บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลาย หายเหนื่อยเป็นสุข จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพและใจอ่อนน้อม และจิตใจท่านทั้งหลายจะได้พัก ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะ และภาระของเราก็เบา”

ผมขอพูดเรื่องคำเชื้อเชิญนี้ของพระเยซู
โดยแบ่งออกเป็น 2 ตอน
(1)ข้อ 28 คนที่มีภาระหนักเชิญมาหาพระเยซู
(2)ข้อ 29-30 คนที่หายเหนื่อยแล้วเชิญมารับแอกที่เบาแรง

1.คนที่มีภาระหนักเชิญมาหาพระเยซู

“บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลาย หายเหนื่อยเป็นสุข” (28)
ภาระหนัก ที่พระเยซูตรัสถึงหมายถึงอะไร แน่นอนคงไม่ใช่เพียง เรื่องภาระการเงิน ภาระลูกเข้าโรงเรียน ความเจ็บป่วย ฯลฯ แค่นั้น แต่รวมไปถึงเรื่องอื่นๆที่ยาจกเศรษฐีพบเหมือนกันหมด นั่นคือเรื่องความผิดบาป คนเราทำบาปเราอยากหลุดพ้น แต่เราก็ดิ้นไม่หลุด
1.1 การพยายามชนะบาปโดยถือพระบัญญัติ
เช้าวันนี้พี่น้องได้ชมละคร ในบทละครท่านจะเห็นว่า คุณนิสัย แม้ได้ชื่อว่าเป็นคริสเตียน แต่เมื่อเขาไม่บังเกิดใหม่ สัมผัสพระเจ้า พบพระเยซู เขาก็เลิกเหล้ายาปลาปิ้งไม่ได้
คนไทยเรารู้จักศีลข้อ 5 ดี เรื่องอย่าดื่มสุรา แต่เราก็พ่ายแพ้เนื้อหนัง เราต่อสู้ไม่ชนะ
นี่ยังไม่นับศีลข้ออื่นๆ นะครับ เหตุที่เราชนะไม่ได้ไม่ใช่เพราะบัญญัติหรือศีลไม่ดี แต่ศีลเป็นแค่เสือกระดาษสำหรับใจบาปที่เห็นแก่ตัว เราสู้จนเหนื่อยก็ชนะไม่ได้ สับสนเหมือน เปาโลเขียนไว้ในโรม บทที่ 7 “ข้าพเจ้าไม่เข้าใจการกระทำของข้าพเจ้า สิ่งที่อยากทำยังทำอยู่ แต่สิ่งที่อยากทำกลับทำไม่ได้ ...โอย ข้าพเจ้าเป็นคนน่าสมเพชอะไรเช่นนี้ ใครหนอจะช่วยให้ข้าพเจ้าพ้นจากกายแห่งความตายนี้ได้”
1.2 ชีวิตที่เห็นแก่ตัว ขาดความสัมพันธ์กับพระเจ้า
เมื่อขาดความสัมพันธ์ เราก็ต้องพึ่งตนเอง เหมือนกิ่งขาดจากต้น ขาดน้ำเลี้ยง บาปเป็นกำแพงขวางกั้นระหว่างเรากับพระเจ้า เราไม่ได้รับกำลังจากพระเจ้า แล้วเราต่อสู้ไปอย่างไรก็ สู้ไม่ไหว อย่างนี้เหนื่อยแน่นอน
1.3 บาปทำให้ฟ้องร้องในจิตใจของเรา
พระเจ้าทรงประทานจิตวินิจฉัยผิดชอบ เมื่อเราทำผิดก็ฟ้องร้องในจิตใจ เวลาคนเรามีGuilty Feeling ไปทำอะไรที่ไหนก็ไม่มีความสุข เหมือนคนมีชนักติดหลัง

เมื่อเรามาพบพระเยซูที่ไม้กางเขน
เหมือนดังที่พระเยซูทรงเชื้อเชิญ ผู้ลำบากเหน็ดเหนื่อยทั้งหลายมาหาพระองค์ เมื่อถ่อมใจเข้ามาพบพระองค์ที่ไม้กางเขน เหมือนคุณนิสัยมาพบพระเยซู และกลับใจใหม่ต้อนรับพระเยซู เขาก็จะได้รับ
1. การอภัยโทษ พระเจ้าไม่ทรงเอาโทษ แต่ทรงอภัยอดีตให้เราหมดสิ้น (โรม 8:1)
2. พระวิญญาณเสด็จเข้ามาประทับในใจของเรา (โรม 8:9)
3. ความรักของพระเจ้าหลั่งไหลเข้าสู่จิตใจของเราทางพระวิญญาณ (โรม 5:5)

แล้วแน่นอน ความรักของพระเจ้าก็ท่วมท้นจิตใจของเรา เราหายเหนื่อย พบสันติสุขในพระเจ้า


2. คนที่หายเหนื่อยแล้ว มารับภาระที่เบาแรง
หลายคนเข้าใจผิดว่า เมื่อพบพระเจ้าแล้ว เราไม่ต้องรับภาระสิ่งใด เราสบายแล้ว เราจะรอว่าวันใดจะไปสวรรค์ สุขสำราญในสวรรค์อีก

เปล่าครับ พระเจ้าทรงประทานภาระให้เรา

“จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา”
อะไรคือแอกที่พระเยซูมอบให้
(1) การรักษาพระบัญญัติ ( โรม 8:4 )
เอ้า ! แต่เดิม พระบัญญัติเคยเป็นภาระ เดี๋ยวนี้พระเจ้าทรงช่วยให้เราหลุดออกไป แปลว่าต่อไปนี้เราไม่ต้องถือพระบัญญัติใช่ไหม กินเหล้าเมายาได้ใช่ไหม โกงได้ใช่ไหม ผิดประเวณีได้ใช่ไหม ถ้าไม่ต้องถือรักษาพระบัญญัติเช่นนี้ คริสเตียนน่ากลัวมาก เพราะถูกปลดปล่อยออกมาให้ทำผิดได้ หญิงที่ผิดประเวณีในยอห์น บทที่ 5 พระเยซูตรัสกับเธอว่า “เราก็ไม่เอาโทษเจ้าเหมือนกัน จงไปเถิด อย่าทำผิดอีกเลย”
การถือรักษาพระบัญญัติคราวนี้แตกต่างจาก อดีตทีมีใจเห็นแก่ตัว แต่พยายามหักห้ามใจไม่ให้ทำผิด คราวนี้เรามีความรักพระเยซู และไม่อยากทำบาปอีก
เหมือน โรม 8:3-4 กล่าวว่า “เพราะว่าสิ่งซึ่งธรรมบัญญัติทำไม่ได้ เพราะเนื้อหนังทำให้อ่อนกำลังไปนั้น พระเจ้าได้ทรงกระทำแล้ว โดยพระองค์ทรงใช้พระบุตรของพระองค์มา ในสภาพเสมือนเนื้อหนังที่บาป และเพื่อไถ่บาป พระบุตรในเนื้อหนังจึงได้ทรงปรับโทษบาป เพื่อสิ่งที่ธรรมบัญญัติสั่งไว้ จะได้สำเร็จในตัวเราทั้งหลาย ผู้ไม่ดำเนินตามฝ่ายเนื้อหนัง แต่ตามฝ่ายพระวิญญาณ”

(2) ทรงมอบภาระให้เราทำ (ยอห์น 21:5)
พระเจ้าทรงมอบหมายให้เราช่วยคนอื่น ขยายแผ่นดินของพระองค์ เวลาเราเกิดมาในโลกพระเจ้าทรงประทานตะลันให้เรา ร้องเพลงเพราะ วาดเขียนเก่ง ทำอาหารเก่ง ฯลฯ เมื่อเราบังเกิดใหม่ พระเจ้าทรงประทานของประทานฝ่ายพระวิญญาณให้ ให้เราเป็นครู อธิษฐานเผื่อผู้ป่วย เผยพระวจนะ หนุนใจ บริจาค เผยแพร่ข่าวประเสริฐ เป็นผู้เลี้ยง ฯลฯ พระเจ้าประทานให้แก่เราทำไม นี่คือแอกที่พระเยซูทรงประทานให้ ให้เรารับผิดชอบช่วยคน เมื่อพระเยซูตรัสถามเปโตร ว่าเจ้ารักเราหรือ เปโตรตอบพระเยซู ว่ารักพระองค์ พระเยซูทรงตรัสสั่งว่า “จงเลี้ยงลูกแกะของเราเถิด”
(3) ทรงประทานพี่น้องมาให้เราดูแล
พระเยซูทรงประทานแอกให้แกเราอีกอย่างหนึ่งคือ ช่วยรับผิดชอบพี่น้อง คนที่พระองค์ส่งมาให้อาจไม่น่านรัก แต่นี่คือแอกที่ทรงมอบให้


ภาระหรือแอกที่ทรงประทานให้ มันเบา ไม่หนัก
เราไม่ต้องกัดฟันถือพระบัญญัติ เราไม่ต้องเหนื่อยหน่ายกับการรับใช้ และเราไม่ต้องรู้สึกหนักกับคนที่พระเจ้าให้เราดูแล

ทำไม?

(1) เพราะพระเยซูน่ารัก
1ยน 4:10
ไม่มีใครมารู้จักพระองค์แล้วไม่หลงรักพระองค์ พระองค์ตรัสว่า ไม่หนักเพราะพระองค์สุภาพและมีใจอ่อนน้อม และสาวกก็จะเบาแรง เพราะผู้ออกคำสั่งเป็นผู้สุภาพ เรารักพระองค์ได้เพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน
(2) เพราะเรารับกำลังมาจากพระเจ้า
โรม 5:5
ชีวิตที่ไม่เห็นแก่ตัว รักพระเจ้าสุดจิตสุดใจสิ้นสุดกำลังความคิด เป็นชีวิตที่ต่อสายตรงถึงพระเจ้า เหมือนกิ่งติดกับต้น เราได้รับน้ำเลี้ยงมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราจะได้รับกำลัง เราจะไม่เหนื่อย ตรงกันข้าเราจะเบาแรง
(3) เพราะความรัก
โรม 8:37-38
เมื่อเรารักพระเยซู อะไรอะไรก็ง่ายดายไปหมด ทำไมชายหนุ่มที่รักหญิงสาวมีกำลังไปหาเธอ ทำไมพ่อลุกขึ้นมาช่วยลูกแต่เช้ามืดได้ไม่ยาก ทำไมยาโคบทำงานให้ลาบัน 7 ปี รู้สึกเหมือนทำงาน 7 วัน เพราะรักนั่นเอง ยากหรือที่จะสัตย์ซื่อกับภรรยา ยากหรือที่จะต้องอดเที่ยวบาร์ ไนท์คลับ ยากหรือที่จะรับใช้พระเจ้า เราต้องกัดฟัรทำหรือ จัดดอกไม้ ซ้อมดนตรี ฝึกร้องเพลง เป็นปฏิคม ประกาศ สอนพระคัมภีร์ พระเยซุไม่เคยบังคับใครให้ทำงาน หรือมาหาพระองค์ พระองค์ตรัสว่า “ผู้ใดใคร่ตามเรามามา ให้คนนั้นชนะตนเอง แบกกางเขนของตน ตามพระองค์มา” ผู้ใดใคร่...ใคร่ แปลว่าอยาก ไม่อยากก็ไม่ต้องมา พระคัมภีร์ไม่เคยบังคับให้ใครถวาย “พระเจ้าทรงคนเหล่านั้นที่ให้ด้วยใจยินดี ไม่ใช่ฝืนใจให้” เพราะรักต่างหาก ยากมากๆ หากเราจะต้องทำให้แก่คนที่เราไม่รัก แต่พอเรามีความรัก อะไรมันก็ง่ายไปหมด ไม่เป็นภาระหนักอะไร ตรงกันข้ามเมื่อเรารัก เรารับใช้ เราสนุก ภาษิตฝรั่งเขาว่า “ความเชื่อทำให้ทุกสิ่งเป็นไปได้ ความรักทำให้ทุกสิ่งง่ายไปหมด” The yoke is easy. แอกของพระเยซุมั่นง่ายครับ



Click เพื่อฟังคำเทศนาที่นี่
Visitor 1197

 อ่านบทความย้อนหลัง