สู่เป้าหมายกับพระเยซู
คำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน 2009

คุณเชษฐ์ชัย นรเศรษฐ์ศรีสุข


(มัทธิว 21:1-11)

พระธรรมตอนนี้พูดถึงพระเยซูเสด็จเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็ม อย่างผู้พิชิต สังคมยิวตอนนี้ตกเป็นทาสของชาวโรมัน คนยิวตอนนั้นอยากมีอิสรภาพ พวกเขาเชื่อว่าพระเมสิยาห์จะมาและปลดปล่อยพวกเขาให้พื้นจากอำนาจของโรมัน พวกเขารอคอย ปกติชาวยิวชอบความรุนแรง แบบตาแทนตาฟันแทนฟัน

1.วิธีการของพระเจ้าเป็นสันติวิธี ไม่รุนแรง เหมือนของมนุษย์ มัทธิว 21:5 “จงบอกชาวศิโยนว่า กษัตริย์ของท่านเสด็จมาหาท่านโดยพระทัยอ่อนสุภาพ ทรงลา ทรงลูกลา” มนุษย์ชอบความรุนแรง แต่วิธีการของพระเจ้าเป็นสันติวิธี พระองค์มีพระประสงค์ปลดปล่อยมนุษย์ทั้งโลก ไม่ใช่เฉพาะคนยิว พวกเขาผิดหวัง
เวลามีอุปสรรค เข้ามา เราใช้วิธีใดแก้ปัญหา โดยสันติวิธี หรือโดยอาศัยความรุนแรง
ตัวอย่าง ผมเพิ่งไปพบกับฝ่ายจัดซื้อของบริษัท ผมเข้าใจว่า เขาเป็นฝ่ายเทคนิค พอพบเขาก็ขอต่อรองราคา เพราะผมไม่ได้เตรียมราคาต้นทุนไป ผมจึงปฏิเสธไม่เปลี่ยนแปลงราคา เขาจึงไม่ซื้อ ผมกลับมาด้วยความผิดหวังเหมือนกับพูดกับเขาด้วยความรุนแรง ภายหลังผมจึงทราบว่าเขาเป็นเจ้าของ เป็นบทเรียนว่าผมไม่ควรพูดแบบรุนแรง แต่ควรพูดคุยด้วยสันติ ผมขอโทษเขา


2.ลา ดูต่ำต้อย แต่จุดจบของมนุษย์ต่ำต้อยกว่าลา
ลาเป็นสัตว์ที่ดูต่ำต้อย โง่เขลา แบกของหนัก อายุสั้นแค่ 10 ปี คนไทยติคนโง่ว่าหมือนควาย จุดจบของลาคือ หลุมศพ แต่จุดจบของคนต่ำกว่าลา ฮีบรู 9:27 จุดจบของมนุษย์เราวิญญาณไปถึงหลังความตาย คือ การพิพากษา ถ้าไม่มีพระเยซู ก็ต้องถูกพิพากษา

3.ชีวิต มีคุณค่าเมื่อมีพระเยซู ( 21:7-9) ลาตัวนั้น มีพระเยซูประทับนั่ง มีผู้คนโห่ร้องสรรเสริญ ถ้าลาไม่มีพระเยซู ก็ไม่มีประสบการณ์การสรรเสริญยกย่อง ผมเคยไปพบหมอเก่ง ผมชื่นชม แต่ผมอดถามไม่ได้ว่ามีไหมที่รักษาไม่ได้ ท่านบอกว่า ท่านรักษาหลานท่านเองยังไม่หาย แต่พระเยซูทรงเชื้อเชิญคนมีภาระ คนลำบากเหน็ดเหนื่อยมาหาพระองค์( มัทธิว 11:28) ทุกวันนี้คนกำลังมีโรคเครียด นี่คือโอกาสที่เราจะบอกเขาว่าพระเจ้าช่วยเขาได้ ผมเคยมีเพื่อนที่กังวลนอนไม่หลับแตกต่างจากผม ผมไม่มีความกังวลความเครียดเป็นโอกาสของการประกาศพระกิตติคุณ
4.ชีวิตที่เดินกับพระเยซูต้องมีเป้าหมาย (10)
เป้าหมายของพระเยซูคือ ไปยังกรุงเยรูซาเล็มเพื่อประกอบกิจอันสำคัญ พระองค์จะวายพระชนม์ที่กางเขน และชัยชนะเหนือความตาย ผู้เชื่อต้องมีเป้าหมายเหมือนอย่างพระเยซู เราจะต้องรักษาความเชื่อจนถึงนาทีสุดท้าย เหมือนช่างตี๋ ที่เพิ่งจากไป ท่านสัตย์ซื่อจนวาระสุดท้าย เป้าหมายของเราคือ เยรูซาเล็มใหม่ โลกไม่ใช่เป้าหมายของเรา

5.ชีวิตมีสุข ต้องเดินไปทุกวัน ด้วยความระมัดระวังทุกวัน อย่างมีศาสตร์ และศิลป์ (8)

ถนนที่เราเดินมีหิน ที่ถูกปกคลุมด้วยผ้า และใบปาล์มเดินยากเหมือนถนนที่น้ำท่วมในกรุงเทพ ต้องเดินด้วยความระมัดระวัง พ่อแม่อบรมให้ลูกเรียน ต้องการกำลังใจ พ่อแม่ต้องมีศาสตร์และศิลป์ในการอบรมลูก ให้ลูกเข้าสังคมได้ ต้องไม่ให้ลูกริเรียนรัก เกเร ผิดเป้า ชิงสุกก่อนห่าม เวลาวัยรุ่นโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ ยิ่งต้องใช้ศาสตร์และศิลป์มากยิ่งขึ้น ต้องใช้ชีวิตถวายพระเกียรติ สังคมปัจจุบันหาตัวอย่างยาก

ผมเลือกพระคำข้อนี้ เป็นพระคำประจำตัว (1 โครินธ์ 10:31) “เหตุฉะนั้น เมื่อท่านจะรับประทานจะดื่ม หรือจะทำอะไรก็ตาม จงกระทำเพื่อเป็นการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า" เวลาบริษัทจะรับพนักงานเขาบอกถ้าเป็นคริสเตียนแบบคุณ ไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์แบบคุณ ผมจะรับไว้เลย 70 %
Click เพื่อฟังคำเทศนาที่นี่
Visitor 460

 อ่านบทความย้อนหลัง