พระเมตตาของพระเจ้ายิ่งใหญ่

คำเทศนาวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน 2008
ศ.จ. สมเกียรติ กิตติพงศ์

เฉลยธรรมบัญญัติ 4:31
“เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย เป็นพระเจ้าผู้กอปรด้วยพระเมตตา พระองค์จะไม่ทรงละทิ้ง หรือทำลายท่านทั้งหลาย หรือลืมพันธสัญญาซึ่งพระองค์ทรงกระทำไว้ กับบรรพบุรุษของท่านโดยการปฏิญาณ”


วันนี้ผมอยากพูดถึงพระเมตตาของพระเจ้า
นี่คือพระลักษณะของพระเจ้า ที่เราต้องรู้จัก
ข้อความที่เราอ่าน เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงสัญญากับคนอิสราเอล โมเสสทูลพระเจ้าว่าหากพวกเขาทำผิด พระองค์ลงโทษเขา แต่เมื่อเขากลับใจแล้ว ขอโปรดเมตตาอภัยให้เขา
เรื่องนี้ตามประวัติศาสตร์ก็เกิดมาแล้ว ยิวดื้อพระเจ้า บ้านแตกสาแหรกขาด แต่เมื่อพวกเขาสำนึก พระเจ้าก็ทรงนำเขากลับมาบ้าน

ความหมายของ คำว่า เมตตา (Mercy)
ศัพท์คำนี้ ใช้เวลาทีผู้อยู่ภายใต้การปกครองกระทำผิด
พระเจ้าทรงเป็นผู้ชอบธรรม ยุติธรรม พระลักษณะนี้ เมื่อมนุษย์ที่อยู่ภายใต้การปกครองของพระเจ้าทำผิด พระองค์ต้องลงโทษตามความผิด ไม่ลำเอียง หรือเลือกที่รักมักที่ชัง ใครหว่านพืชอย่างใดก็ต้องเกี่ยวผลอย่างนั้น ค่าจ้างของความบาปคือความตาย
แต่ พระเมตตา ไม่ทรงปรารถนาจะลงโทษคนที่กระทำผิด พระลักษณะ 2 อย่างนี้
ทำให้พระองค์ต้องกระอักกระอ่วน กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เหมือนพ่อที่ไม่อยากลงโทษลูกที่กระทำความผิด แต่ต้องทำ แต่พอลูกกลับใจก็เมตตาลูกทันที

พระลักษณะนี้ของพระองค์สำแดงดังนี้
1. ทรง อดทนนาน
( 2 เปโตร 3:9 )
“องค์พระผู้เป็นเจ้ามิได้ทรงเฉื่อยช้าในพระสัญญาของพระองค์ ตามที่บางคนคิดนั้น แต่พระองค์ได้ทรงอดกลั้นพระทัยไว้ เพราะเห็นแก่ท่านทั้งหลายมาช้านานพระองค์ ไม่ทรง ประสงค์ที่จะให้ผู้หนึ่งผู้ใดพินาศเลย แต่ทรง ปรารถนาที่จะให้คนทั้งปวงกลับใจใหม่
คริสเตียนในสมัยพระคัมภีร์ใหม่ถูกการข่มเหงมาก พวกเขาอยากให้พระเยซูเสด็จมาเร็วๆ
พวกเขาจึงคิดว่า พระเจ้าชักช้า แต่เปโตรได้ชี้แจงว่า ความรู้สึกของพวกเขาแตกต่างกับพระเจ้า พระเจ้ามีพระเมตตาแก่คนที่ยังไม่เชื่อ พระองค์ทรงปรารถนาให้พวกเขาเข้ามา วันเดียวของพระเจ้า ก็เหมือนพันปีของเรา พระเจ้าทรงมีพระเมตตาต่อพวกเขา
ครับ แต่ก็มิใช่ว่า ไม่มี Limit พระคัมภีร์บันทึกว่า พระพิโรธของพระเจ้าพลุ่งขึ้น ๆ จนวันหนึ่งพระพิโรธนั้นล้นออกมา
เหมือนกับเรื่องการมีผลในชีวิตคริสเตียน พระเยซูอุปมาไว้ ในลูกา 13:6-9
2. พระองค์ทรงหวังอยู่เสมอ
“คนหนึ่งมีต้นมะเดื่อต้นหนึ่ง ปลูกไว้ในสวนองุ่นของตน และเขามาหาผลที่ต้นนั้นก็ไม่พบ และเขามาหาผลที่ต้นนั้น ก็ไม่พบ เขาจึงว่าแก่คนที่รักษาเถาองุ่นว่า “นี่แน่ะ เรามาหาผลองุ่นได้สามปีแล้ว แต่ไม่พบ จงโค่นมันเสีย จะให้ดินจืดไปเปล่าๆทันไม แต่ผู้รักษาเถาองุ่นตอบเขาว่า นายเจ้าข้าขอเอาไว้ปีนี้อีก ให้ข้าพเจ้าพรวนดิน เอาปุ๋ยใส่ แล้วปีหน้ามันเกิดผลก็ดีอยู่ ถ้าไม่เกิดผล ภายหลังจงโค่นมันเสีย”

ดังนั้นอย่าให้เราชะล่าใจ วันนี้หากเราทำความผิดสิ่งใด จงกลับใจเสียใหม่
3.ทรงเตรียมการไถ่โทษ
(เอเฟซัส 2:3-4)
“เมื่อก่อนทั้งปวงเคยประพฤติ ...ตามตัณหาของเนื้อหนัง ...เป็นคนควรแก่พระอาชญา แต่พระเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระกรุณา เพราะเหตุความรักอันใหญ่หลวง ซึ่งพระองค์ทรงรักเรานั้น”
เรารอดโดยพระคุณเพราะความเชื่อ

ขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่พระเจ้าทรงสำแดงพระเมตตา พระเยซูขณะที่พระองค์ถูกตรึงที่กางเขน พวกปุโรหิต ทหาร เยาะเย้ยถากถางพระองค์ แต่พระองค์ทรงเต็มพระทัยอภัยให้พวกเขา ตรัสว่า “พระบิดาเจ้าข้า ขอยกโทษให้เขา เพราะเขาไม่รู้ว่าเขาทำอะไรลงไป”
พระองค์ทรงเต็มพระทัยยกโทษให้ตั้งแต่พวกเขายังเป็นศัตรูกับพระองค์ แต่ การอภัยจริงยังมิได้เกิดขึ้นจนกว่าพวกเขสำนึกผิดกลับใจ และเชื่อ

4. ทรงอภัยให้แก่คนที่กลับใจ

(โรม 2:4)
“หรือว่าท่านประมาทพระกรุณาคุณอันอุดม และความอดกลั้นพระทัย และความอดทนของพระองค์ ท่านไม่รู้หรือว่าพระกรุณาคุณของพระเจ้านั้นมุ่งชักนำท่านให้กลับใจใหม่”
เมื่อเรากลับใจใหม่ พระเจ้าก็อภัยให้แก่เราอย่างกว้างขวาง เหมือน บิดาอภัยให้บุตรน้อย ที่สำนักผิด
เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะพระเจ้าไม่อภัยให้แก่คนที่ไม่สำนึก และไม่กลับใจ
ลูกา 17:3-4 “ระวังตัวให้ดี ถ้าพี่น้องของท่านทำผิดต่อท่าน จงเตือนเขา และถ้าเขากลับใจแล้ว จงยกโทษให้เขา แม้เขาทำผิดต่อท่านวันละเจ็ดหน และกลับมาหาท่าน ทั้งเจ็ดหนนั้น แล้วว่า “ฉันกลับใจแล้ว จงยกโทษให้เขาเถิด”
แต่เมื่อเขากลับใจ พระเจ้าทรงอภัยให้แก่เขา ด้วยพระเมตตาอย่างกว้างขวาง

(1 ยอห์น 1:9) “ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการ อธรรมทั้งสิ้น”
คนที่สารภาพผิด พระเจ้าทรงอภัยเขา บ่อยครั้งเราสารภาพผิดออกมาจากปากยากมาก เพราะ Ego ของเรา


5. ทรงเมตตาคืน ความสุขใจ และพระพรให้

เช่นกรณีของโยบ เมื่อท่านวลสำนึก พรเจ้าก็อภัย และอวยพระพร
( ยากอบ 5:11)
“ท่านรู้เรื่องความอดทนของโยบ และได้เห็นแล้วว่า ในที่สุดปลายนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงเปี่ยมไปด้วยพระเมตตากรุณาสักเท่าใด”
บุตรน้อยผู้กลับใจใหม่ บิดามอบเสื้อ แหวน รองเท้า และเลี้ยงรับขวัญเขา เช่นเดียวกัน เมื่อเรากลับใจ พระเมตตาของพระเจ้าทรงเต็มพระทัยอวยพระพรเรามากกว่าที่เราคิด



Click ที่นี่เพื่อฟังคำเทศนา
Visitor 1037

 อ่านบทความย้อนหลัง