ชีวิตที่เกิดผล

สรุปคำเทศนาศุกร์ที่ 22 มกราคม 2016

มน.ดร. วันทนีย์ เอ็นโด้

     การเกิดผลในชีวิตคริสเตียนนั้นเป็นเป้าหมายที่พระเยซูคริสต์คาดหวังจากคริสเตียนทุกคน ซึ่งแท้จริงก็เป็นธรรมชาติของชีวิตของมนุษย์อยู่แล้ว(ปฐมกาล1:28)พระเจ้าทรงสร้างชายและหญิงพระเจ้าทรงอวยพรและตรัสว่า "จงมีลูกดกทวีมากขึ้นจนเต็มแผ่นดิน"(ปฐมกาล 17:6) พระเจ้าตรัสกับอับรามว่า "เราจะกระทำให้เจ้ามีพงค์พันธ์มากยิ่งขึ้นเราจะกระทำให้เจ้าเป็นชนหลายชาติและกษัตริย์หลายพระองค์จะเกิดมาจากเจ้า" พระเจ้าต้องการให้ขยายวงค์วานออกไปมากมาย ในปัจจุบันในพระคำภีร์ใหม่ พระเยซูคริสต์ทรงถ่ายทอดพระประสงค์ไม่ยิ่งหย่อนไกว่าเดิม จากคำอุปมาหลายเรื่องล้วนสนับสนุนให้เรามีชีวิตที่เกิดผล พระเยซูทรงกล่าวคำอุปมาถึงเจ้าของสวน ไม่พอใจเรื่องต้นมะเดื่อไร้ผล จนถึงขั้นจะตัดทิ้งเสีย และอีกครั้งหนึ่ง พระเยซูและเหล่าสาวกได้เสด็จผ่านต้นมะเดื่อ ทรงเสด็จเข้าไใกล้ แต่ไม่เห็นผลเลย พระเยซูทรงสาปแช่งต้นมะเดื่อ เพราะไม่มีผล แต่ขณะเดียวพระเยซูทรงชมเชยคนต้นเรือนที่เอาเงินไปลงทุนค้าขายแล้วได้กำไร แต่ตรงกันข้ามทรงสาปแช่งและริบเอาเงินคืนจากคนต้นเรือนที่เอาเงินสำหรับลงทุนไปฝังดินเสีย ไร้ผลไร้กำไรธรรมชาติชีวิตคริสเตียนเหมือนต้นไม้ เหมือนเมบ็ดพืชที่เพาะลงในดิน แม้ครั้งแรกดูเหมือนดมล็ดจะเล็กเล็กกว่าเมล็ดอื่น แต่พอโตแล้วเจริญเติบโต โตวันโตคืนไม่หยุด โตกว่าพืชทั้งปวง และที่ออกผลอยู่แล้ว ก็ทรงลิดแขนง เพื่อห้ออกผลมากกว่าเดิม พระเจ้าต้องการเห็นผลจากชีวิตคริสเตียนเสมอ ถึงเวลาแล้วที่ชีวิตคริสเตียน(เรา) ควรมีผลถวายแด่พระเจ้า ผลที่ว่านี้คืออะไรผลคือชีวิตที่เป็นประโยชน์กับคนอื่น

(ตัวอย่าง) ต้นมะม่วง ผลไม่ได้เป็นประโยชน์กับต้นขแงมันเอง แต่เป็นประโยชน์ต่อคนที่ได้ลิ้มรสผลมะม่วงนั้น จะชื่นชอบรสหวานของมะม่วงนั่น เช่นเดียวกันชีวิตคริสเตียนของเราเมื่อเราติดสนิทกับพระเจ้าแล้วชีวิตของเราจะประกอบด้วยผลของพระวิญญาณ ในชีวิตที่แสดงถึงการเติบโตฝ่ายวิญญาณซึ่งประกอบไปด้วยความรัก,ความปลาบปลื้มใจ,สันติสุข,การอดกลั้นใจ,ความปราณี,ความดี,ความสัตย์ซื่อ,ความสุภาพอ่อนน้อม,การรู้จักบังคับตน สิ่งเหล่านี้มิได้มีไว้เพื่อสำหรับตัวของเราเอง แต่เพื่อสำแดงสิ่งดีงามเหล่านี้ต่อคนอื่นๆ เพื่อเขาจะได้สัมผัสความรักของพระเจ้าผ่านชีวิตของเรา ผลคือการเพิ่มพูนตัวของเราพระเจ้าทรงสร้างต้นไม้ให้ขยายพันธุ์เช่นเดียวธรรมชาติของมนุษย์เรา การแต่งงานเพื่อให้มีบุตรธิดาเพื่อสืบสกุลต่อไปการเป็นคริสเตียนก็เช่นเดียวกีน ไม่ใช่เก็บความชื่นชมยินดีไว้คนเดียวเท่านั้น แต่เพื่อให้เรานำสิ่งที่ดีเหล่านี้เพื่อนำคนอื่นๆให้เข้ามาสัมผัสความรักของพระเจ้าเหมือนกับเราเช่นกัน ชีวิตของเราจะมีผลได้อย่างไร:-

        1. การมีผลนั้นเป็นงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ (ยอห์น15:4-5)พระเยซูทรงตรัสถึงกิ่งที่ติดกับต้น พระองค์เป็นต้น และเราทั้งหลายเป็นแขนง เราเองต้องมีชีวิตที่ติดสนิทกับพระองค์ ดร.  ฟรานซีส เชพเฟอร์ กล่าวว่า "งานของพระเจ้า ต้องทำโดยวิธีของพระเจ้า" 

2. การมีผลเป็นงานของตัวเราเองด้วย ตัวเราเองต้องทำอะไรบางสิ่งบางอย่างเพื่อจะให้เกิดผล 2.1 สนิทสนม (ยอห์น 15:4) จงเข้าสนิทอยู่ในเรา เราเองต้องใช้เวลาที่จะอธิษฐาน อ่านพระคำภีร์ ต้องใช้เวลาที่สนิทสนมกับพระองค์สม่ำเสมอ งานรับใช้ที่ทำอยู่นั้นพระองค์เท่านั้นที่จะประทานความสำเร็จได้ผ่านชีวิตของเรา 2.2 เสียสละ (ยอห์น 12:24) "ถ้าเมล็ดข้าวไม่ได้ตกลงไปในดินและเปื่อยเน่าไป ก็คงอยู่เป็นเมล็ดเดียว  แต่ถ้าเปื่อยเน่าไปแล้ว ก็จะงอกขึ้นและเกิดผลมา"พระเยซูคริสตเจ้าทรงเชิญชวนให้เราทั้งหลายยอมสละชีวิตเพื่อติดตามพระองค์ ไม่มีงานไหนสำเร็จได้เลยถ้าไม่มีการออกแรง บางครั้งการปรนนิบัตรับใช้ที่เราทำอยู่นั้นต้องทุ่มเทเวลา ใช้ความอดทนดูจากพระเยซูทรงเป็นแบบอย่างแก่เรา

    2.3  สรรเสริญ  (ยอห์น12:32-33)"เมื่อเราถูกยกขึ้นจากแผ่นดินโลกแล้ว เราก็จะชักนำคนเป็นอันมากให้มาหาเรา" "ถูกยกขึ้นจากโลก" นึกถึงภาพที่เขาจับพระองค์ตรึงที่กางเขน ตอกตะปูที่พระหัตถ์ และพระบาท แล้วใช้เชือกดึงไม้กางเขนขึ้น ปักโคนไม้กางเขนลงในหลุม ไม้กางเขนถูกยกตระหง่านขึ้นให้คนทั้งหลายได้เห็น นั่นคือการวายพระชนม์เพื่อการไถ่โทษบาปแทนพวกเรา และนี่คือความรักที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลกทุกยุคทุกสมัย ไม่มีรักใดที่ยิ่งใหญ่กว่านี้อีกแล้ว เมื่อพระกิตติคุณได้ประกาศออกไป คนทั้งหลายก็มาเชื่อในพระองค์มากขึ้นผ่านชีวิตของเราทั้งหลาย " การยกพระองค์ขึ้น" เป็นการเทิดทูนยกย่องพระองค์ของผู้ที่เชื่อ พวกเราทั้งหลายล้วนเป็นหนี้พระคุณของพระองค์  ที่ทรงปลดปล่อยจากความเป็นทาสสู่ความเป็นไทย หลุดพ้นจากการผูกมัดจากวิญญาณชั่ว จากสิ่งเสพติด จากโรคภัยไข้เจ็บ จากปัญหาที่แก้ไม่ตก อย่างอัศจรรย์    ฉะนั้นเราควรเปิดปากเป็นพยานในสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำในชีวิตของเรา อย่าปิดปากเงียบ การปรนนิบัติรับใช้ในคริสตจักรจะเกิดผลนั้นไม่ใช้ตัวเราเอง แต่งานปรนนิบัติรับใช้จะเกิดผลเมื่อเราทั้งหลายได้รับใช้ตามของประทาน ที่ทรงประทานให้แต่ละคน ในกลุ่มเซลล์ ในกลุ่มตอนบ่าย แม้กระทั่งในคริสตจักร ดังคำขวัญในปีนีว่า

"ปี 2020 มุ่งเพิ่มพูนทั่วไทย" นี้เป็นนิมิตที่พระเจ้าตรัสกับชาวสามัคคีธรรมกรุงเทพทุกคน ขอพระเจ้าช่วยเราให้ชีวิตเกิดผลเป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้าสูงสุด  ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ