เยาวชน อนุชน โดยเฉพาะอายุ 6-12 ปีฟังให้ดี (ทุกวัยด้วยครับ)
ขณะผมกำลังรู้สึกอิ่มตัว จนกลายเป็นเฉยชา และไม่รู้จะก้าวไปทางไหนต่อไป และเมื่อผมเริ่มเสาะหาหน้าพระเจ้าใหม่ ก็ได้ยินถึงคำนี้บ่อยมาก ทั้งส่วนตัวและในงานสัมมนานิมิตและการทรงสำแดง
เรียนรู้ที่จะรัก น้ำองุ่นใหม่ และ เหล้าองุ่นใหม่ พระเจ้าจะเทมาให้เรา

เราจะต้องเตรียมตัวรับด้วยทำภาชนะที่มีสิ่งสกปรกอยู่นั้นให้ว่าง และ สะอาด ชำระด้วยน้ำ พระโลหิต และ พระคำ เราต้องเตรียมถุงหนังใหม่ เพื่อรองรับเหล้าองุ่นใหม่ เพราะหากเอาถุงหนังเก่ามาใส่เหล้าองุ่นใหม่ ถุงหนังเก่าจะระเบิด และ เสียดายเหล้าองุ่นใหม่ด้วย พระเจ้ากำลังจะเทการทรงสำแดง นิมิต การเปิดเผยแผนงาน ให้กับเราทุกคน เราต้องเปลี่ยนท่าทีของเรา และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวของพระวิญญาณบริสุทธิ์นั้น เพื่อนำเราให้เข้าไปใกล้พระทัยพระบิดามากยิ่งขึ้น พ่อจะกลับมาหาลูก และลูกจะกลับไปคืนดีกับพ่อ คนที่หลงทางจะกลับมาบ้าน พระเจ้าพระบิดากำลังรวบรวมลูก ๆ ของพระองค์กลับมาอยู่ในอ้อมกอดของพระองค์ คุณเป็นของพระเจ้า และไม่ว่าศัตรู หรือ โลกนี้จะบอกว่ายังไง พระเจ้าไม่เคยทอดทิ้งคุณ อย่าปล่อยให้มารมันโจมตีคุณด้วยคำตำหนิ วิพากษ์วิจารณ์ กดขี่ข่มเหงคุณ บีบบังคับคุณ ที่ใดมีพระวิญญาณของพระเจ้า ที่นั่นมีเสรีภาพ และหากพระบุตรทำให้คุณเป็นไทแล้ว คุณก็เป็นไทจริง ๆ การจะได้ถุงหนังใหม่มาได้นั้น สัตว์ต้องถูกฆ่าตาย หนังต้องถูกตากแดด ชีวิตเก่าของเราก็เหมือนกัน หากมันยังไม่ได้ก็ใช้ไม่ได้ เราต้องฆ่าตัวเก่าของเราให้ตาย ต้องถูกอาบด้วยแสงแห่งพระคำของพระองค์ เมื่อเราเข้ามาอยู่ในอาณาจักรแห่งพระคำพระเจ้า เมื่อนั้นพระองค์ก็จะนำเราเข้าไปสู่อาณาจักรสวรรค์ของพระองค์ เพราะพระเยซูคริสต์คือ พระคำพระเจ้า

ปีนี้เตรียมตัวให้ดี วันที่ 27 กันยายน 2008 เริ่มต้นตั้งแต่เวลา หกโมงเย็น ของวันที่ 26 จนถึงหกโมงเย็นของวันที่ 27 ให้เสาะหาหน้าพระเจ้า เข้ามาเฝ้าพระองค์ เอากระดาษและปากกามาด้วย พระเจ้าพระบิดาจะทรงเปิดเผยและสำแดงนิมิต น้ำพระทัย และแผนการของพระองค์สำหรับคุณให้ทราบ เราจะไม่ทำงานเพื่อพระเจ้าอีกต่อไป แต่ทำงานร่วมกับพระองค์ เราจะไม่เพียงแต่รับพระคำพระองค์ แต่เราจะเห็นด้วยกับพระคำนั้น (คำเตือน นี่ไม่ใช่เป็นวันเสด็จกลับมาครั้งที่สองของพระเยซูคริสต์นะครับ นี่เป็นวันชำระบาปของชนชาติอิสราเอล เรียกว่า ยม คิปเปอร์ เป็นวันที่พระเจ้าจะนับจำนวนประชากรแกะของพระองค์และใส่ชื่อของพระองค์ไว้ที่หน้าผากของเราเหมือนปุโรหิต "บริสุทธิ์แด่พระเจ้า" เป็นวันที่เราจะเข้ามาเสาะหาหน้าพระองค์ และ รับสิ่งใหม่ ๆ ที่พระเจ้ากำลังจะทำในปีต่อไป)

ปีนี้เป็นปีแห่งการรื้อฟื้น และ สำเร็จ สิ่งที่ขาดหายไปจะกลับคืนมา สิ่งที่ถูกศัตรูขโมยไป เราจะได้คืน ต่อเมื่อเราสั่งด้วยสิทธิอำนาจ ยึดสิ่งเหล่านั้นกลับมาเป็นของเรา กลับมาเป็นของพระเจ้า พระเจ้าได้ให้สิทธิอำนาจแก่คริสตจักรแล้ว พระเจ้าไม่ได้ให้สิทธิอำนาจบนแผ่นดินโลกกับใครอื่นในโลกนี้ พระองค์มอบให้กับคริสตจักร ซึ่งก็คือ คุณ ผู้ที่ยำเกรงและเกรงกลัวพระนามของพระองค์ ต่อให้ดูเหมือนว่าฝั่งศัตรูจะมีจำนวนคนมากแค่ไหนก็ตาม อย่าลืมพระสัญญาของพระเจ้าที่ให้ไว้กับคุณว่า หนึ่งคนในพวกเราจะทำให้พันคนวิ่งหนีไปได้ และสองคนในพวกเรา หมื่น ๆ คนก็จะแตกพ่ายกระจายไป ลองรวบรวมคนสัก ยี่สิบเจ็ดคนซิครับ และคูณคำณวนพระสัญญาของพระเจ้าเข้าไป จะไม่มีอำนาจใดบนโลกนี้ หรือ ประชาชาติใดมาต่อกรกับคุณได้ พระคำพระเจ้าไม่ได้เป็นแค่ดาบอย่างเดียว แต่เป็นกุญแจด้วย กุญแจนี้ คือ พระเยซูคริสต์ พระองค์เปิดแล้วจะไม่มีใครปิดได้ และพระองค์ปิดแล้วก็จะไม่มีใครเปิดได้ด้วย สิ่งใดที่คุณผูกมัดบนแผ่นดินโลก สิ่งนั้นก็ผูกมัดในสวรรค์ สิ่งใดที่คุณปลดปล่อยในโลก สิ่งนั้นก็ถูกปลดปล่อยในสวรรค์ด้วยเช่นกัน

พระเจ้าได้ให้สิทธิอำนาจไว้ที่ปากของเราแล้ว จงพูดในแง่บวก ด้วยความเชื่อ ความรัก ความหวัง หากคริสเตียนผู้ได้รับการเจิมและสิทธิอำนาจจากพระเจ้ากลับพูดแต่แง่ลบ บ่น หรือ วิพากษ์วิจารณ์ วิญญาณชั่วในโลกฝ่ายวิญญาณก็จะทำให้มันเกิดขึ้นตามนั้นจริง ๆ กลายเป็น การแช่งสาปไป ฉะนั้น ระวังเรื่องคำพูดของเราให้ดี ๆ ยากอบ และ เปาโล ได้เตือนไว้แล้วถึงเรื่องการใช้ลิ้น จงอวยพร อย่า แช่งด่าเลย พูดหนุนใจกัน อย่าติเตียนและวิพากษ์วิจารณ์ เพราะว่าเราจะต้องกินผลจากคำพูดของเรา และพระเยซูคริสต์จะนำคำพูดที่ไร้สาระทุกคำของเราเข้าไปสู่การพิพากษา

มีคนเคยถามว่า หากว่าเรารู้ว่า เรากำลังจะตายภายใน ยี่สิบเจ็ดวัน เราจะทำอย่างไรบ้าง ?
ผมตอบไปว่า จะเรียนรู้ที่จะรัก
ด้วยการเขียนจดหมายไปขอโทษคนที่เราเคยทำผิดไว้ในอดีต
เอาสมบัติที่มีอยู่ทั้งหมดมอบให้กับคนที่ไม่มี
ทำงานที่ได้รับมอบหมายต่อไป และ ฝากงานต่าง ๆ ไว้กับคนที่เหมาะสมจะเป็นครูฝึกคนอื่นต่อไปได้
เทศนาและประกาศอย่างหมดหัวใจ นำคนมาถึงพระเยซูให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งที่มีโอกาส และ ไม่มีโอกาส
เขียนหนังสือเล่าประสบการณ์ทั้งหมดที่พระเจ้าได้ทำกับเรา ตอบคำอธิษฐานและช่วยxxx้เราอย่างไร แล้วจัดพิมพ์แจกจ่ายให้กับญาติที่ยังไม่รู้จักพระเจ้า เพื่อน ๆ คนในหมู่บ้าน ตามจังหวัดต่าง ๆ
จัดเตรียมงานศพของตัวเองให้เรียบร้อย
ฮ่า ๆ ๆ หากเป็นผมจะจัดเลี้ยงโต๊ะจีนเลย เชิญคนที่ยังไม่รู้จักพระเจ้า คนจรจัด คนไม่มีบ้านอยู่ คนพิการ มาทานอาหารในวันงานศพของผม และจัดให้มีการนมัสการ การประกาศข่าวประเสริฐครั้งใหญ่เลย

แต่ผมขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ไม่ได้ให้ความสำคัญของวันตายฝ่ายร่างกายของเรา ทำกับการที่ตัวเก่าของเราตายร่วมกับพระเยซูคริสต์ วันนั้นแหละเป็นวันที่เราเกิดใหม่ในพระองค์ และจากนี้ เราก็จะดำเนินชีวิตร่วมกับพระองค์ เพราะพระองค์อยู่ในเรา เป็นใหญ่กว่าผู้นั้นที่อยู่ในโลก ความตายเป็นแค่ประตูผ่านไปสู่การได้ไปอยู่ต่อหน้าพระองค์ และคำถามแรกที่พระองค์จะถามเราก็คือ เราได้เรียนรู้ที่จะรัก หรือเปล่า ยามที่เราอยู่ในโลกนี้ ? หากไม่ เราก็ไม่อาจเข้าในสวรรค์ได้ เพราะความรักเป็นรากฐานของอาณาจักรสวรรค์ รักพระเจ้า และ รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง เพราะหากเราไม่รักพี่น้องที่มองเห็นแล้ว จะรักพระเจ้าที่มองไม่เห็นไม่ได้ รอดโดยพระคุณ อย่าลืมว่า พระคุณก็คือ ความรักที่พระเจ้ารักเราให้เราเปล่า ๆ เราเองก็ต้องสำแดงพระคุณแก่คนที่ไม่น่ารัก ศัตรู และ ทุกคน เพราะเราได้มาเปล่า ๆ เราก็ต้องให้เขาเปล่า ๆ เหมือนกัน พร้อมจะไปสวรรค์หรือยัง ดูที่ว่า เราพร้อมที่จะรัก และ ให้อภัยคนอื่นหรือยัง ?

อ่านแล้วฟังแล้ว รู้สึกร้อนวูบวาบข้างในหัวใจหรือเปล่าครับ ? นั่นคือวิญญาณของคุณมีชีวิตขึ้นมาแล้ว ไฟแห่งพระวิญญาณกำลังเผาผลาญอยู่ภายในใจคุณแล้ว กำลังเรียกร้องให้คุณทำบางสิ่งบางอย่างวันนี้ กำลังเคาะประตูใจให้คุณสารภาพบาปต่อพระเจ้า เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมบางอย่างที่คุณรู้ว่าไม่ดีแต่ยังทำอยู่ กลับใจมาหาองค์พระเยซูคริสต์ กลับมาถึงรักแรกที่คุณเคยมีตอนที่คุณเพิ่งเริ่มพบพระองค์ใหม่ ๆ ขอไฟแห่งพระวิญญาณนี้พัดโหมกระหน่ำให้แรงยิ่งขึ้น และ จุดประกายไฟส่งต่อไปให้คนอื่น ๆ ที่อยู่รอบตัวคุณ จนชีวิตของคุณสัมผัสชีวิตของเขาได้ และเปลี่ยนแปลงไปเหมือนกัน พระเจ้าไม่ได้อยู่ไกลบนท้องฟ้าครับ พระองค์อยู่ในหัวใจคุณนั่นแหละ แผ่นดินสวรรค์ไม่ได้อยู่ที่นั่น หรือ ที่นี่ แผ่นดินสวรรค์ ก็คือ คุณ นั่นแหละ คริสตจักรไม่ใช่ตัวอาคาร คริสตจักรของพระคริสต์ก็คือ คุณนั่นแหละ จงส่องสว่าง และ เป็นเกลือของแผ่นดินโลกนี้ ต่อให้สังคมโลกนี้จะเน่าเฟะ หรือ มืดมิดแค่ไหน คุณจะต้องรักษาความเค็มของคุณไว้ เพราะเกลือเท่านั้นจะรักษาของไว้ไม่ให้เน่าเสียได้ แสงสว่างแม้ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหน ในห้องที่มืดมิดนั้น แสงนั้นก็ส่องสว่างไปจนทั่ว จงเป็นแสงสว่างนั้นส่องแก่โลกนี้ที่มืดมิดเถิด บอกเขาว่า อาทิตย์อุทัยที่มีปีกแห่งการเยียวยารักษากำลังจะขึ้นมาแล้ว องค์พระเยซูคริสต์กำลังจะเสด็จกลับมาแล้ว

เมื่อผมร้องเรียกพระเจ้าว่า "พ่อครับ" แค่คำเดียวผมเห็นภาพพระองค์ก้มตัวลงอุ้มผมขึ้นมากอดไว้ และผมก็โอบพระองค์ไว้อย่างนั้น พระองค์บอกผมว่า "เราภูมิใจในตัวเจ้า ลูกรัก" พระองค์กำลังบอกคุณทุกคนที่อ่านอยู่นี้ว่า "เราภูมิใจในตัวเจ้า ลูกชาย และ ลูกสาวของเรา เราภูมิใจในยามที่เจ้านอนหลับ เราภูมิใจในยามที่เจ้าตื่น และเมื่อยามที่เจ้าล้มลง เราก็ภูมิใจ เพราะว่าชีวิต คือ การเรียนรู้ และการล้มเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต เราภูมิใจในตัวเจ้า ลูกสาว และ ลูกชายของเรา" คุณรู้ไหมครับว่า เด็กหัดเดินต้องล้มกี่ครั้งกว่าเขาจะเดินได้อย่างถูกต้องเป็นก้าวแรก และก้าวแรกนั้นตามมาด้วยอีกหลายพันล้านก้าวตลอดชีวิตของเรา พระเจ้าพระบิดาบอกว่า "เราภูมิใจในตัวเจ้า มารับเอาความรักของเราเถิด"

ด้วยรักในพระคริสต์
เอ็ม สุรชัย
Surachai.Org
Visitor 347

 อ่านบทความย้อนหลัง